วัคซีนโนวาแวกซ์พร้อมฉีดแล้ววันนี้

A vial of the Phase 3 Novavax coronavirus vaccine

ขวดบรรจุวัคซีนโนวาแวกซ์ Source: AP Photo/Alastair Grant

โนวาแวกซ์ วัคซีนโปรตีนตัวแรกในออสเตรเลียเริ่มใช้ได้แล้วในวันนี้ เร็วกว่าที่กำหนดเดิมหนึ่งสัปดาห์ ในขณะที่รัฐบาลกลางขยายเวลาสภาวะฉุกเฉินของประเทศ เพื่อรองรับผลกระทบของไวรัสโอมิครอน


กด ▶ เพื่อฟังสัมภาษณ์
LISTEN TO
Novavax coronavirus vaccine goes into service a week early image

วัคซีนโนวาแวกซ์พร้อมฉีดแล้ววันนี้

SBS Thai

14/02/202209:23
วัคซีนโนวาแวกซ์พร้อมใช้แล้วในขณะนี้ที่ออสเตรเลีย

เดิมวัคซีนโปรตีนตัวนี้ถูกกำหนดให้เริ่มใช้ได้ตั้งแต่วันที่ 21 กุมภาพันธุ์ หลังองค์กรบริหารผลิตภัณฑ์เพื่อการรักษา (Therapeutic Goods Administration- TGA) ให้คะแนนการตรวจสอบวัคซีนโนวาแวกซ์ 100 เปอร์เซ็นต์ ส่งผลให้วัคซีนได้รับการอนุมัติใช้หนึ่งสัปดาห์ก่อนกำหนด

นายเกร็ก ฮันท์ (Greg Hunt) รัฐมนตรีสาธารณสุขแห่งรัฐบาลกลางกล่าวว่า วัคซีนโนวาแวกซ์ต้องฉีดสองโดส ห่างกันสามสัปดาห์

“ผู้ที่มีเหตุผลส่วนตัวในการรอวัคซีนตัวนี้ หรือไม่สามารถฉีดวัคซีนตัวอื่นๆ ก่อนหน้านี้ได้ นี่เป็นตัวเลือกใหม่ เรามีอัตราประชากรที่ฉีดวัคซีนสูงเป็นอันดับต้นๆ ของโลก หลังจากวันนี้ ไม่มีข้อแก้ตัวแล้ว”
นายฮันท์กล่าวว่า การยื่นขออนุมัติให้ใช้วัคซีนโนวาแวกซ์เป็นวัคซีนกระตุ้นกับทีจีเอจะมีขึ้นในไม่ช้า

รัฐมนตรีสาธารณสุขยังได้ประกาศขยายเวลาสภาวะฉุกเฉิน ภายใต้พระราชบัญญัติเพื่อความมั่นคงทางชีวภาพจนถึงวันที่ 17 เมษายน

การขยายเวลานี้หมายความว่า ข้อกำหนดฉุกเฉิน 5 ประการจะยังคงอยู่ เพื่อช่วยบรรเทาผลกระทบของไวรัสโอมิครอน

ข้อกำหนดเหล่านี้ได้แก่ การบังคับใช้การตรวจเชื้อและสวมหน้ากากอนามัยสำหรับผู้โดยสารเที่ยวบินระหว่างประเทศ ข้อจำกัดในการเดินทางออกนอกประเทศสำหรับประชากรออสเตรเลียที่ไม่ได้รับวัคซีน และข้อจำกัดในการเทียบท่าของเรือสำราญ

ข้อกำหนดยังรวมถึง มาตรการป้องกันการโก่งราคาชุดตรวจแบบทราบผลเร็ว (Rapid antigen tests) ที่จะยังคงอยู่ และการปกป้องชุมชนในแถบภูมิภาค ในนอร์ทเทิร์นเทอร์ริทอรี

นายฮันท์กล่าวว่า คำสั่งฉุกเฉินเพื่อความปลอดภัยด้านสุขภาพจะยังมีผลบังคับใช้ เพื่อปกป้องประชากรออสเตรเลียที่อ่อนแอ
เราจะพิจารณาข้อกำหนดเหล่านี้เรื่อยๆ และจะลดหย่อนตามคำแนะนำทางการแพทย์ได้เสมอ สิ่งสำคัญคือเราจะยังคงข้อกำหนดการฉีดวัคซีนสองโดส สำหรับผู้ที่จะเดินทางเข้าออสเตรเลีย ตามกำหนดในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ เราจะเปิดประเทศให้ผู้ถือวีซ่าทุกประเภท ตราบใดที่พวกเขาได้รับวัคซีนครบสองโดส เพื่อให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาออสเตรเลียได้
คำสั่งนี้มีขึ้นหลังองค์กรที่ปรึกษาเรื่องการสร้างภูมิคุ้มกัน (Australian Technical Advisory Group on Immunisation – ATAGI) เปลี่ยนแปลงคำแนะนำสำหรับการฉีดวัคซีนกระตุ้นเป็น “ตามสถานการณ์ล่าสุด (Up to date)” แทนที่การได้รับวัคซีนครบโดส (Fully vaccinated)

โดยผู้ที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป จะต้องได้รับวัคซีนโดสที่สาม ภายใน 6 เดือนนับจากวันที่ได้รับวัคซีนโดสแรก เพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์ล่าสุด

แต่มาตรการนี้ไม่บังคับใช้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเดินทางเข้าออสเตรเลีย
รัฐบาลรัฐนิวเซาท์เวลส์กล่าวว่า จะใช้มาตรการบังคับฉีดวัคซีนสามโดสกับผู้ที่ทำงานในบ้านพักคนชรา นายโดมินิก เพอร์โรเทตต์ (Dominic Perrottet) มุขมนตรีกล่าวว่า เขาจะขอคำแนะนำเกี่ยวกับการฉีดวัคซีนกระตุ้นสำหรับหน่วยงานที่ให้บริการจำเป็นอื่นๆ ต่อไป

“ผมจะรับฟังคำแนะนำด้านสุขภาพและปรึกษากับรัฐมนตรีสาธารณสุขในประเด็นที่เกี่ยวข้องเหล่านั้น ที่ตอนนี้เรากำหนดให้ได้รับวัคซีนสองโดส เพื่อก้าวสู่ขั้นต่อไป”


คุณเชย์ แคนดิช (Shaye Candish) จากสมาคมพยาบาลและผดุงครรภ์แห่งรัฐนิวเซาท์เวลส์ (New South Wales Nurses and Midwives' Association) กล่าวในการไต่สวนที่มีขึ้นในกรุงแคนเบอร์ราว่า รัฐบาลรัฐนิวเซาท์เวลส์ประเมินสถานการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อเจ้าหน้าที่สาธารณสุข “ต่ำเกินไป” ในช่วงของการระบาด

เธอเสริมว่ารัฐบาลรัฐนิวเซาท์เวลส์ต้องพิสูจน์ว่าจะลงทุนในภาคส่วนนี้เพิ่มขึ้น หรือเสี่ยงต่อการสูญเสียบุคลากรทางการแพทย์เป็นจำนวนมาก

“การอนุญาตให้พวกเขาขอลาป่วยเมื่อพวกเขาติดโควิดจะเป็นการเริ่มต้นที่ดี เพียงหลักพื้นฐานเหล่านี้ในการตระหนักว่าพวกเขาประสบปัญหาในเรื่องของสภาพการทำงานอย่างไร เช่น ค่าจ้างและการจัดหาพนักงาน จะเป็นก้าวแรกในการสร้างความหวังให้กับภาคส่วนนี้ เพราะในตอนนี้ไม่มีความหวังเลย นั่นคือเหตุผลที่สมาชิกของเราแข็งขืน”
Doctor with a Face Mask Reading a Medical Chart
แพทย์ใส่หน้ากากอนามัยอ่านรายงาน Source: Pexels/Rodnae Productions
รัฐวิกตอเรียเป็นอีกรัฐที่ประเมินสถานการณ์ในภาคส่วนสาธารณสุขอีกครั้ง ด้วยการยุติภาวะฉุกเฉินระดับสีน้ำตาล (Code Brown) ในวันจันทร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2022 หลังบังคับใช้เป็นเวลาสามสัปดาห์  เนื่องจากมีจำนวนผู้ป่วยโควิดที่รักษาตัวในโรงพยาบาลลดลง

และเพิ่มอัตราการผ่าตัดทางเลือกแบบไม่เร่งด่วน (Non-urgent elective surgery) ในวันเดียวกัน รวมถึงอนุมัติให้โรงพยาบาลเอกชนสามารถดำเนินการผ่าตัดทางเลือกแบบไม่เร่งด่วนเป็น 50 เปอร์เซ็นต์ในเขตตัวเมืองเมลเบิร์น และเป็น 75 เปอร์เซ็นต์ในเขตภูมิภาค

นายมาร์ติน โฟเล่ย์ (Martin Foley) รัฐมนตรีสาธารณสุขกล่าวว่า เขากำลังพิจารณาผ่อนคลายข้อจำกัดในโรงพยาบาลเพิ่มเติม หากอัตราผู้ติดเชื้อโควิดลดลงและการขาดบุคลากรยังลดลง
เรามั่นใจว่า แม้ว่าเราจะยังคงยุ่งมาก แต่เราอยู่ในจุดที่สามารถยกเลิกภาวะฉุกเฉินระดับสีน้ำตาล ในขณะที่เราสร้างความร่วมมือกันในหลายๆ ด้านและการปกป้องทั้งระบบ เราสามารถผ่านสถานการณ์ของการระบาดในระดับสีน้ำตาลมาได้
รัฐควีนส์แลนด์ประกาศทุ่มเงินมูลค่า $200 ล้านดอลล่าร์สำหรับสายการบินระหว่างประเทศ ก่อนการเปิดพรมแดนจะมีขึ้นในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ นี้

การอัดฉีดเงินครั้งนี้เป็นการร่วมลงทุนระหว่างสนามบินระหว่างประเทศของรัฐและรัฐบาลรัฐควีนส์แลนด์ เพื่อช่วยฟื้นฟูอุตสาหกรรรมการท่องเที่ยว

นางแอนนาสตาเชีย พาลาส์เชค์ (Annastacia Palaszczuk) มุขมนตรีกล่าวว่า เงินทุนดังกล่าวจะผันแปรเป็นผู้โดยสารเที่ยวบิน 5.31 ล้านคนต่อปี และงานจำนวน 24,100 ตำแหน่งต่อปี ภายในปี 2025
นี่เป็นการอัดฉีดเงินครั้งใหญ่ เราสนับสนุนเศรษฐกิจการท่องเที่ยวมาโดยตลอด โดยเฉพาะธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิดในช่วงการระบาด นี่เป็นการกระตุ้นเพื่อให้มีผลตอบแทนที่มีมูลค่ากว่าพันล้านดอลล่าร์
อ่านรายละเอียดมาตรการเพื่อความปลอดภัยด้านสุขภาพและมาตรการช่วยเหลือที่มีเพื่อรับมือกับการระบาดของโควิด-19 ในขณะนี้ที่เป็นภาษาไทยได้ที่ sbs.com.au/coronavirus 


คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์  

บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่ 

Share
Follow SBS Thai

Download our apps
SBS Audio
SBS On Demand

Listen to our podcasts
Independent news and stories connecting you to life in Australia and Thai-speaking Australians.
Understand the quirky parts of Aussie life.
Get the latest with our exclusive in-language podcasts on your favourite podcast apps.

Watch on SBS
Thai News

Thai News

Watch in onDemand