ชุมชนไทยมองงบประมาณปี 22 อย่างไร ในปีที่วิกฤตกระหน่ำซ้ำซัด

Different opinions with 2022-23 Australia Federal Budget in Thai Community

ฟังความเห็นของชุมชนไทยในออสเตรเลีย ต่อร่างงบประมาณแผ่นดินของรัฐบาลสหพันธรัฐ 2022-23 Source: Pixabay/Squirrel_photos

การแถลงงบประมาณท่ามกลางเหตุวิกฤตการระบาด สงคราม และภัยธรรมชาติ ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่รัฐมนตรีกระทรวงการคลังยันออสเตรเลียแข็งแกร่งและฟื้นตัวเร็ว ฟังเสียงสะท้อนงบประมาณปีนี้จากชุมชนไทยในออสเตรเลีย ในมุมของคนทำงาน แม่ที่เลี้ยงลูก เจ้าของธุรกิจ และนักแปลและล่าม


กดเพื่อฟังเรื่องนี้
LISTEN TO
thai community giving different opinions with australia budget 2022 image

ชุมชนไทยมองงบประมาณปี 22 อย่างไร ในปีที่วิกฤตกระหน่ำซ้ำซัด

SBS Thai

30/03/202221:05
นายจอช ฟรายเดนเบิร์ก (Josh Frydenberg) เริ่มกล่าวสุนทรพจน์ก่อนแถลงงบประมาณประจำปี ร่ายถึงอุปสรรคที่เรากำลังเผชิญ
ขณะที่เรารวมตัวกันในคืนนี้ มีการกระหน่ำยิงกันในยุโรป โรคระบาดใหญ่ทั่วโลกยังไม่สิ้น อุทกภัยยังกระหน่ำชุมชนของเรา เราอยู่ในช่วงเวลาที่ไม่แน่นอน สองปีที่ผ่านมาเป็นสิ่งที่ยากเย็นของประเทศเรา มีอุปสรรคเกิดขึ้นมากมาย แต่ออสเตรเลียยังคงแข็งแกร่งและฟื้นตัวได้เร็ว
รัฐมนตรีคลังกล่าวว่าเศรษฐกิจของออสเตรเลียยังคงดี แม้ต้องเจออุปสรรคมากมาย จากอัตราการว่างงานต่ำที่สุดในรอบครึ่งศตวรรษ แต่ออสเตรเลียยังสามารถรักษาความน่าเชื่อถือในระดับสากลไว้ได้ที่เรตทริปเปิล-เอ (Triple-A) 

ในขณะที่ชุมชนในแถบตะวันออกเฉียงใต้ของรัฐควีนส์แลนด์และตอนเหนือของรัฐนิวเซาท์เวลส์กำลังฝ่าฟันภัยพิบัติธรรมชาติอยู่ในตอนนี้
รัฐบาลจะจัดสรรเงินบรรเทาภัยพิบัติทางธรรมชาติมูลค่าประมาณ 763 ล้านดอลล่าร์

“เราขอส่งใจไปให้ผู้ที่เสียคนที่รัก เสียบ้านและธุรกิจจากเหตุอุทกภัยในรัฐนิวเซาท์เวลส์และแถบตะวันออกเฉียงใต้ในรัฐควีนส์แลนด์ ไม่มีอะไรที่ผมจะกล่าวที่จะเทียบเท่าถึงความเจ็บปวดและการสูญเสียของชาวออสเตรเลียหลายคน เราจะยืนหยัดกับชุมชนที่ประสบภัยและจะช่วยพวกเขาสร้างคืนกลับมาใหม่” 

อัดฉีดเงินช่วยเหลือเต็มที่แก่ครอบครัว เกษตรกร ผู้ประกอบธุรกิจรายเล็ก รัฐบาลท้องถิ่นและชุมชนต่าง ๆ มูลค่าเกิน 6 พันล้านดอลลาร์
สำหรับหลายคนในออสเตรเลีย ราคาน้ำมันที่พุ่งสูงสร้างความกดดันเรื่องค่าใช้จ่ายในครอบครัวอย่างหนัก

“ราคาน้ำมันแพง ค่าอาหารและค่าขนส่งก็สูงตาม เพิ่มอัตราเงินเฟ้อและค่าใช้จ่ายรายวัน รัฐบาลของนายมอร์ริสันประกาศแพ็กเกจช่วยเหลือค่าครองชีพแบบชั่วคราว เพื่อลดแรงกดดันนี้ มาตรการเชิงปฏิบัติที่จะทำให้ช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้น ภาษีน้ำมันจะลดลงครึ่งหนึ่ง ประชากรออสเตรเลียจะได้รับ 22 เซ็นต์ต่อลิตรในการเติมน้ำมันทุกครั้ง ในอีก 6 เดือนข้างหน้า”

สำหรับรถยนต์ทั่วไป จะสามารถประหยัดค่าน้ำมันได้ประมาณ 7 ดอลล่าร์ ทุกครั้งที่เติมน้ำมัน
Person Holding Gasoline Nozzle
มือถือหัวฉีดน้ำมัน Source: Pexels/Skitterphoto

ยังมีการลดหย่อนภาษีค่าครองชีพที่เป็นเงินช่วยเหลือแบบจ่ายครั้งเดียวจำนวน $420 ดอลล่าร์ สำหรับผู้ที่มีรายได้ในระดับต่ำถึงระดับปานกลางกว่า 10 ล้านคน
และเงินช่วยเหลือค่าครองชีพแบบจ่ายครั้งเดียวจำนวน $250 ดอลล่าร์ สำหรับผู้ที่รับเงินบำนาญ ผู้ดูแลทหารผ่านศึก ผู้ที่กำลังหางาน ผู้ที่เกษียณที่มีสิทธิ์จัดการการเงินได้เองและผู้ที่ถือบัตรคอนเซสชัน (Concession card holders)

คุณเคย์ คนไทยที่ได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันแพงเนื่องจากต้องขับรถไปทำงาน คิดว่างบช่วยเหลือค่าน้ำมันสามารถช่วยค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันได้เลยทันที และเงินลดหย่อนภาษีสำหรับผู้ที่มีรายได้ต่ำนั้นก็เป็นการช่วยเหลือแก่ผู้เสียภาษีได้
ค่าน้ำมันก็มักจะขึ้นๆ ลงๆ อยู่แล้ว แล้วแต่ว่าสถานการณ์โลกเป็นยังไง คิดว่าที่เขาลดหย่อนภาษีให้พวกเราก็ถือว่าเป็นการช่วยเหลือที่เพียงพอ คิดว่าพอดีแล้วค่ะ
รัฐบาลยังเพิ่มเงินช่วยเหลือผู้ปกครองที่ขอลาหยุดงานเพื่อเลี้ยงดูบุตร โดยทุกครอบครัวสามารถขอลาหยุดได้ 20 สัปดาห์

คุณณัชชาอร ชูเชิดศักดิ์ คุณแม่คนไทยเห็นด้วยและบอกว่าสามารถแบ่งเบาภาระทางการเงินได้เยอะ จากเดิมเธอได้รับส่วนลดจากเซ็นเตอร์ลิงค์ 50 เปอร์เซ็นต์ มาตรการใหม่ทำให้เธอได้รับส่วนลดเพิ่มเป็น 80 เปอร์เซ็นต์
เดย์แคร์ (Day care) ของลูกเนี่ยคิดวันละ $115 ตอนนี้คนโตเสียอยู่ $57 เหรียญ คนเล็กเนี่ยจะเหลือแค่ $23 เหรียญ ซึ่งมันลดไปประมาณ $30 กว่าเหรียญต่อวัน ก็คือเงินออกจากกระเป๋าน้อยลง
คุณณัชชาอรยังกล่าวถึงผู้ปกครองบางส่วนที่ไม่สามารถขอเงินช่วยเหลือได้ เนื่องจากหากผู้ปกครองคนใดคนหนึ่งไม่ได้ทำงาน เซ็นเตอร์ลิงค์จะไม่ให้เงินช่วยเหลือ ซึ่งหากต้องพาลูกไปทำธุระบางครั้งอาจไม่สะดวก เพราะบางครั้งไม่มีใครช่วยดูลูก และการสามารถขอลาหยุดเพิ่มได้จะมีส่วนช่วยคุณแม่มือใหม่ได้อีก

“จริงๆ ผลประโยชน์ตรงนี้มันดีอยู่แล้ว เลี้ยงเด็กเล็กเนี่ยมันเหนื่อยมาก ช่วงแรกๆ แม่นี่แทบจะไม่ได้นอนเลย พอมันเหนื่อยมากๆ ประกอบกับฮอร์โมนแปรปรวนหลังคลอด แม่ก็จะเครียด คือเพิ่มมาสองสัปดาห์เนี่ยมันไม่ได้เยอะ แต่มันช่วยได้เยอะนะ ในเรื่องของสภาพจิตใจ”
รัฐมนตรีกระทรวงการคลังแถลงจะลงทุน 2.8 พันล้านดอลล่าร์เพื่อเพิ่มอัตราการจบหลักสูตรอบรมและเพิ่มทักษะ โดยจะมอบเงิน $5,000 ดอลล่าร์แก่ผู้จบการฝึกอบรมใหม่
ผู้ประกอบธุรกิจขนาดเล็กที่ลงทุนเพื่อเพิ่มทักษะของพนักงาน จะได้รับการยกเว้นภาษี $120 ดอลล่าร์สำหรับทุกๆ $100 ดอลล่าร์ที่จ่ายในการฝึกอบรม
และมีการลดหย่อนภาษีแบบเดียวกันสำหรับผู้ประกอบธุรกิจขนาดเล็กที่ลงทุนในดิจิทัล เทคโนโลยี (Digital technology)

“ทุกๆ หนึ่งร้อยดอลล่าร์ที่ผู้ประกอบธุรกิจขนาดเล็กที่ใช้จ่ายไปกับดิจิทัล เทคโนโลยี เช่น คลาวด์ คอมพิวติ้ง (Cloud computing) การออกใบแจ้งหนี้แบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Invoicing) ระบบความปลอดภัยทางไซเบอร์ (Cyber security) และการออกแบบเว็บไซต์ (Web design) จะได้รับการลดหล่อนภาษี $120 ดอลล่าร์ มาตรการใหม่นี้จะช่วยเหลือผู้ที่ลงทุนมากกว่า $100,000 ดอลล่าร์ต่อปี”

คุณชัยวัตร หวังลิขิตกูล เจ้าของธุรกิจขนาดเล็กในเมลเบิร์นกล่าวว่า สมัยนี้มีหลายร้านที่ระบบออนไลน์มาช่วยเยอะ งบตรงนี้จะช่วยค่าใช้จ่ายได้ และการลดหย่อนภาษีสำหรับการอบรมพนักงานก็สามารถช่วยได้เช่นกัน
ถ้าพนักงานที่ตั้งใจช่วยงานในธุรกิจไหนก็ตาม ถ้าเจ้าของอยากให้พนักงานไปเทรน (Train) เพิ่มเพื่อที่จะเข้ามาช่วยในธุรกิจก็เป็นเรื่องที่ดี
เมื่อถามว่า รัฐบาลควรให้การช่วยเหลือธุรกิจรายเล็กเพิ่มเติมมากกว่านี้หรือช่วยลดหย่อนภาษีอีกหรือไม่ คุณวัตรตอบว่า ถ้ามีก็ดี เพราะตอนนี้สถานการณ์เริ่มดีขึ้น แต่ก็ยังมีเจ้าของธุรกิจที่ยังมีปัญหาอยู่ ทุกคนอยากให้รัฐบาลลดหย่อนภาษีอยู่แล้ว ถ้าสามารถช่วยได้

“เหมือนกับเป็นโบนัส ให้กับธุรกิจที่ยังสามารถดำเนินการอยู่ได้ ในช่วงที่สถานการณ์มันแย่แบบนี้ เหมือนเป็นกำลังใจให้กับธุรกิจ ผมว่าทุกคนคงยินดีครับ”

Computer diplaying line graph on desk
กราฟบนคอมพิวเตอร์บนโต๊ะทำงาน Source: Pexels/Serpstat


ในปีงบประมาณปีนี้ รัฐบาลเน้นรับผู้อพยพที่มีทักษะ (Skilled migrants) โยกจำนวนรับผู้อพยพที่ถือวีซ่าคู่ครอง (Partner visa) 10,000 ที่ไปให้แก่ผู้อพยพที่มีทักษะ เป็นทั้งหมด 109,000 ที่
วีซ่าครอบครัว รวมถึงวีซ่าคู่ครองและบุตร วีซ่าสำหรับผู้ปกครองและวีซ่าครอบครัวอื่นๆ จะได้รับ 50,000 ที่
ปี 2022-2023 การอนุมัติวีซ่าคู่ครองจะเป็นไปตาม “เกณฑ์อุปสงค์-อุปทาน” และปรับเพดานรับผู้ย้ายถิ่นถาวรเป็น 160,000 ที่

รัฐบาลเพิ่มจำนวนวีซ่าทำงานและท่องเที่ยว (Work and holiday visa) มากขึ้น 11,000 ที่ การเพิ่มจำนวนวีซ่านี้หวังดึงนักเดินทางแบ็กแพ็กเกอร์จาก 26 ประเทศพันธมิตรที่มีข้อตกลงกับออสเตรเลีย
รัฐบาลคาดว่ามาตรการนี้จะนำเพิ่มเม็ดเงินให้เศรษฐกิจในออสเตรเลียได้อีก $45 ล้านดอลล่าร์ในอีก 3 ปีหน้า
โดยผู้ที่เดินทางเข้าออสเตรเลียในระหว่างเดือนมกราคมและเดือนเมษายนปีนี้ จะสามารถยื่นขอคืนเงินค่าธรรมเนียมวีซ่าได้
นายฟรายเดนเบิร์กกล่าวว่า เงินทุนของรัฐบาลของนายมอร์ริสันที่จะจัดสรรให้โรงเรียน โรงพยาบาล เมดิแคร์ (Medicare) เรื่องสุขภาพจิต การดูแลผู้สูงอายุ ความปลอดภัยของผู้หญิงและช่วยเหลือผู้พิการนั้นไม่มีใครเทียบได้ 

โดยรัฐบาลจะทุ่มเงินเกือบ 35 ล้านดอลล่าร์เพื่อปรับปรุงบริการเพื่อสุขภาพจิต การป้องกันการฆ่าตัวตาย บริการเพื่อสังคมและเพื่อสุขภาพโดยรวมสำหรับชนพื้นเมืองและชุมชนผู้อพยพ
กว่า 18 ล้านดอลล่าร์จะมอบให้แก่การช่วยเหลือด้านสุขภาพจิตแก่ชุมชนพหุวัฒนธรรมโดยเฉพาะ
อีก 8 ล้านดอลล่าร์จะมอบให้บริการแปลเอกสาร เพื่อขจัดอุปสรรคของการเข้าถึงบริการช่วยเหลือด้านสุขภาพจิต สำหรับชาวออสเตรเลียที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลัก

รัฐบาลยังให้งบ 20.3 ล้านดอลล่าร์เพื่อให้ความช่วยเหลือผู้หญิงที่ถือวีซ่าชั่วคราวที่เผชิญความรุนแรง หวังช่วยเหลือผู้หญิงจากชุมชนที่มีความหลากหลายทางภาษาและวัฒนธรรม ให้สามารถหาบริการที่เหมาะสมและเข้าถึงได้
งบนี้จะมอบ $3,000 ดอลล่าร์ต่อคนหรือครอบครัว เพื่อช่วยเหลือด้านรายจ่าย เช่น ค่าที่พักและค่ารักษาต่างๆ รวมถึงงบประมาณ 7 ล้านดอลล่าร์แก่หน่วยงานบริการด้านกฎหมายแก่ชุมชนและสตรี 9 แห่ง เพื่อช่วยให้ผู้หญิงสามารถเข้าถึงความช่วยเหลือด้านกฎหมายและความช่วยเหลือในการย้ายถิ่นฐาน
everyday english book
หนังสือภาษาอังกฤษ Source: Unsplash/Ivan Shilov
คุณจีรณัฐนักแปลและล่ามคนไทย ให้แง่คิดว่าเรื่องสุขภาพกายและสุขภาพจิตใจเป็นเรื่องสำคัญ ไม่ว่าจะเชื้อชาติหรือวัฒนธรรมไหน และเงินช่วยเหลือด้านบริการสุขภาพจิต เช่น ไลฟ์ไลน์ (Life Line) เป็นสิ่งที่ดี เพราะเป็นองค์กรที่ให้บริการกับทุกชนชาติหรือผู้ถือบัตรเมดิแคร์
แต่คิดว่างบประมาณด้านนี้ยังถือว่าเป็นจำนวนน้อย จากเหตุวิกฤตโควิดระบาดที่มีปัญหาเรื่องการขาดแคลนบุคลากรทางแพทย์ สถานที่และอุปกรณ์ทางการแพทย์ เชื่อว่าภาคส่วนสาธารณสุขต้องการเงินทุนและกำลังคนอย่างเร่งด่วน
ยังมีด้านผู้ถือวีซ่าชั่วคราวและนักศึกษา ที่ยังไม่สามารถเข้าถึงบริการเมดิแคร์ได้
คุณจีรณัฐพูดถึงปัญหาของการเข้าถึงบริการแปลและล่ามของผู้ที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลัก และยังต้องดูว่างบประมาณจะนำไปช่วยในเรื่องนี้ได้อย่างไร
ในแง่นึงเนี่ย เรามีผู้ที่ให้บริการล่ามและแปลค่อนข้างเพียงพอ แต่การเข้าถึงบริการนั้นยังไม่เพียงพอ ยังขาดการเชื่อมต่อระหว่างผู้ให้บริการและผู้ใช้บริการ อีกประเด็นหนึ่งในทางปฏิบัติคือผู้บริการยังขาดการตระหนักว่ามีบริการความช่วยเหลือด้านภาษาอยู่
"ชุมชนพหุวัฒนธรรมถือว่าเป็นแหล่งรกำลังคนที่มีศักยภาพสูง หากไม่มีการลงทุน เช่น บริการด้านภาษา เพื่อนำทรัพยากรมาใช้ไม่เพียงพอ จะทำให้ไม่สามารถดึงทรัพยากรตรงนี้มาใช้ได้เต็มที่"

สุดท้าย นายฟรายเดนเบิร์กจบการแถลงงบประมาณด้วยการกล่าวถึงการเลือกตั้งที่กำลังจะมีขึ้นในเร็วๆ นี้ อ้างว่ารัฐบาลกลางชุดนี้ได้ปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาทั้งหมดที่เคยให้ไว้ และยืนยันว่าขณะนี้ไม่ใช่เวลาของการเปลี่ยนแปลงทิศทางของรัฐบาล

“นี่คือเวลาที่จะยังคงแผนเดิมของเรา แผนการณ์สร้างเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งและอนาคตที่สดใสกว่าเดิม พวกเราจะทำมันได้” 


คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์  

บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่ 

Share
Follow SBS Thai

Download our apps
SBS Audio
SBS On Demand

Listen to our podcasts
Independent news and stories connecting you to life in Australia and Thai-speaking Australians.
Understand the quirky parts of Aussie life.
Get the latest with our exclusive in-language podcasts on your favourite podcast apps.

Watch on SBS
Thai News

Thai News

Watch in onDemand