VIC พบผู้ติดเชื้อโควิดใหม่ 9 ราย ที่มีทั้งเด็กและผู้ดูแลผู้สูงอายุ

พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ที่ติดเชื้อในชุมชนรวม 11 รายในรัฐวิกตอเรียในระยะเวลา 24 ชั่วโมงจนถึงเที่ยงคืนของวันอาทิตย์ รวมทั้ง 2 รายในสถานดูแลผู้สูงอายุอาร์แคร์ (Arcare) ที่ประกาศไปแล้ววันอาทิตย์

Health workers conduct COVID-19 testing at the Montague St centre in South Melbourne.

Health workers conduct COVID-19 testing at the Montague St centre in South Melbourne. Source: AAP

พบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนารายใหม่ 9 รายในรัฐวิกตอเรียในข้ามคืนที่ผ่านมา นอกเหนือจากที่พบ 2 รายในสถานดูแลผู้สูงอายุอาร์แคร์ (Arcare) ในเมลเบิร์น ซึ่งประกาศไปแล้วในวันอาทิตย์ แต่ยังไม่ได้รวมอยู่ในสถิติอย่างเป็นทางการ

ผู้ติดเชื้อรายใหม่ทั้งหมด 11 รายเชื่อมโยงกับกรณีการติดเชื้อที่สาธารณสุขวิกตอเรียได้รับแจ้งแล้วก่อนหน้านี้

ในจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เหล่านั้น มี 4 รายที่ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์เดลตา (Delta) ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่ติดต่อกันได้ง่ายกว่าเชื้อดั้งเดิมอย่างมาก

นายมาร์ติน โฟลีย์ รัฐมนตรีด้านสาธารณสุขของวิกตอเรีย ยืนยันในวันจันทร์ (7 มิ.ย.) ว่า ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 4 รายจากทั้งหมด 11 ราย เชื่อมโยงกับกรณีการระบาดของเชื้อสายพันธุ์เดลตา หรือที่รู้จักกันในชื่อสายพันธุ์ B.1.617.2 ซึ่งการระบาดของเชื้อนี้เริ่มต้นขึ้นในย่านทางตะวันตกของเมลเบิร์น

ผู้ติดเชื้อรายใหม่เหล่านี้เป็นเด็ก 3 รายและผู้ใหญ่ 1 ราย ส่งผลให้มีผู้ติดเชื้อสายพันธุ์เดลตาในวิกตอเรียรวมขณะนี้ 14 ราย แต่ที่มาของการติดเชื้อสำหรับผู้ติดเชื้อสายพันธุ์นี้รายแรกๆ ในการระบาดที่พบในวิกตอเรียนั้นยังคงไม่ทราบแน่ชัด

ผู้ติดเชื้ออีก 4 รายในจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่ประกาศวันนี้นั้น เชื่อมโยงกับการระบาดของเชื้อสายพันธุ์แคปปา (Kappa) หรือ B.1.617.1 ซึ่งเริ่มต้นขึ้นที่เมืองวิตเทิลซี (Whittlesea) และได้แพร่กระจายไปยังสถานที่หลายแห่งทั่วเมลเบิร์น รวมทั้งที่ย่าน พอร์ต เมลเบิร์น (Port Melbourne)

ส่งผลให้ขณะนี้ มีผู้ติดเชื้อที่ยังคงมีเชื้ออยู่ในวิตเทิลซีรวม 33 ราย และอีก 31 รายในพอร์ต เมลเบิร์น

ผู้ติดเชื้อรายใหม่อีก 3 รายเชื่อมโยงกับการระบาดของเชื้อสายพันธุ์แคปปา ที่สถานดูแลผู้สูงอายุ อาร์แคร์ เมดสตัน (Arcare Maidstone) ที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมลเบิร์น ซึ่งในจำนวนนั้น 2 รายถูกประกาศไปแล้วเมื่อวันอาทิตย์ ส่วนผู้ติดเชื้อรายใหม่อีกรายหนึ่งเป็นพนักงานดูแลผู้สูงอายุที่นั่น
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่สาธารณสุขยังคงไม่รู้ว่าเชื้อสายพันธุ์เดลตาที่พบในการระบาดครั้งนี้นั้นแพร่กระจายเข้ามาในเมลเบิร์นได้อย่างไร

แต่ ศ.ชารอน ลีวิน ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อ สงสัยว่า เชื้อสายพันธุ์เดลตานี้อาจหลุดรอดออกมาจากโรงแรมที่กักตัวผู้เดินทางจากต่างประเทศ หรือจากผู้เดินทางกลับจากต่างประเทศที่ได้รับการยกเว้นให้กักตัวที่บ้านได้

“มีการยกเว้นให้สำหรับนักการทูตและผู้คนอื่นๆ ... แต่กรณีเหล่านั้นความจริงแล้วมีค่อนข้างน้อยมาก นั่นเป็นแหล่งต้นตออีกแหล่งที่เจ้าหน้าที่กำลังสืบสวนอยู่” ศ.ลีวิน บอกกับสถานีวิทยุ 3AW

ทั้งนี้ เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา สาธารณสุขวิกตอเรียได้เพิ่มรายชื่อสถานที่แห่งใหม่ ที่ถูกระบุเป็นสถานที่เสี่ยงแพร่เชื้อโควิด-19 ซึ่งรวมไปถึงสถานที่บางแห่งในย่านธุรกิจกลางเมืองเมลเบิร์น (CBD) และสถานีรถไฟและบริการรถไฟบางสายระหว่าง 2-4 มิ.ย.

คุณสามารถตรวจสอบรายชื่อสถานที่เสี่ยงแพร่เชื้อโควิด-19 จากเว็บไซต์ของสาธารณสุขวิกตอเรียได้
อย่างไรก็ตาม ศ.เบรตต์ ซัตตัน ประธานเจ้าหน้าที่สาธารณสุขวิกตอเรีย กล่าวว่า ไม่มีสถานที่เสี่ยงแพร่เชื้อแห่งใหม่เพิ่มเติมที่เชื่อมโยงกับผู้ติดเชื้อรายใหม่ล่าสุด 11 รายนี้ และการล็อกดาวน์ของเมลเบิร์นอาจเป็นไปตามกำหนดที่จะปลดล็อกดาวน์ได้ในเวลา 23.59 น. ของคืนวันพฤหัสบดีนี้

แต่ ศ.ซัตตัน กล่าวว่า คงจะไม่ใช่การกลับไปสู่ข้อจำกัดที่ผ่อนคลายลงอย่างในช่วงก่อนเกิดการระบาดครั้งนี้

“แน่นอนว่า จะไม่ใช่พลิกกลับไปสู่การรวมตัวกันได้ของคนกลุ่มใหญ่และมีคนเต็มสนามกีฬาเอ็มซีจี (MCG)” ศ. ซัตตัน กล่าว

“แต่มันไม่ใช่สิ่งที่ผมจะสามารถพูดได้ในขณะนี้ ยังเร็วเกินไป ผมรู้ว่ามันน่าคับข้องใจและผู้คนต้องการรู้ว่าสิ่งต่างๆ จะเป็นอย่างไรใน 3 วันหลังจากนี้”

ในวันอาทิตย์ มีประชาชนในรัฐวิกตอเรีย 24,265 คนที่ไปรับการตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา และ 17,719 คนที่ไปรับการฉีดวัคซีนต้านเชื้อโควิดที่ศูนย์ฉีดวัคซีนขนาดใหญ่ต่างๆ ของรัฐ ขณะที่นาย เกร็ก ฮันต์ รัฐมนตรีสาธารณสุขของสหพันธรัฐ ประกาศให้วัคซีนเพิ่มอีก 100,000 โดสสำหรับประชาชนในรัฐวิกตอเรีย

แต่ในวันอาทิตย์ ชาวรัฐวิกตอเรียได้รับคำเตือนว่า “ไม่มีตัวเลขมหัศจรรย์ใดๆ” สำหรับจำนวนประชาชนที่ต้องได้รับการฉีดวัคซีนเสียก่อน จึงจะหลีกเลี่ยงการล็อกดาวน์เพราะสถานการณ์ไวรัสโคโรนาได้ในอนาคต

จนถึงขณะนี้ ประชาชนในรัฐวิกตอเรียเพียง 2-3 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบถ้วนทั้งสองโดส

ศาสตราจารย์ อัลเลน เชง รองประธานเจ้าหน้าที่สาธารณสุขวิกตอเรีย กล่าวว่า ยากที่จะระบุว่าต้องมีสัดส่วนประชากรเท่าใดที่ได้รับการฉีดวัคซีนเสียก่อนจึงจะหลีกเลี่ยงการล็อกดาวน์ได้ในอนาคต

“ไม่มีตัวเลขมหัศจรรย์ตัวใดตัวหนึ่ง” ศ.เชง กล่าว

“เมื่อใดที่เรามาถึงอัตราที่ให้การปกป้องได้สูงกว่าอย่างมาก เมื่อนั้นก็จะทำให้หลายสิ่งหลายอย่างง่ายขึ้นมาก”

“เราอาจไม่จำเป็นต้องมีข้อจำกัดต่างๆ ที่เข้มข้นขนาดนี้ เราอาจสามารถทำแค่การติดตามหาตัวผู้พบปะใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อเท่านั้น โดยไม่ต้องทำอย่างอื่นในระดับที่ทำอยู่ และนั่นคือประโยชน์ของการฉีดวัคซีน”


คุณสามารถอ่านข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19) เป็นภาษาไทยได้

หากคุณมีอาการของไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ ให้ติดต่อขอรับการตรวจเชื้อได้ด้วยการโทรศัพท์ไปยังแพทย์ประจำตัวของคุณ หรือโทรศัพท์ติดต่อสายด่วนให้ข้อมูลด้านสุขภาพเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนา (Coronavirus Health Information Hotline) ที่หมายเลข 1800 020 080

คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์  บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่ 

Share
Published 7 June 2021 11:54am
Updated 7 June 2021 1:45pm
By SBS News
Presented by Parisuth Sodsai
Source: AAP, SBS


Share this with family and friends


Follow SBS Thai

Download our apps
SBS Audio
SBS On Demand

Listen to our podcasts
Independent news and stories connecting you to life in Australia and Thai-speaking Australians.
Understand the quirky parts of Aussie life.
Get the latest with our exclusive in-language podcasts on your favourite podcast apps.

Watch on SBS
Thai News

Thai News

Watch in onDemand