Explainer

ขจัดความกลัวด้านวัคซีนโควิดด้วยคำอธิบายจากผู้เชี่ยวชาญ

โครงการฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้ประชาชนในออสเตรเลียเริ่มขึ้นแล้ว แต่ผู้ที่มีอาการป่วยบางอย่าง หรือเป็นภูมิแพ้ หรือตั้งครรภ์ อาจยังคงมีข้อข้องใจ ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพมีคำอธิบายที่จะช่วยลดหรือขจัดความกลัวและความวิตกเหล่านี้

SBS News

Source: SBS News

ผู้คนหลายล้านในทั่วโลกได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 แล้ว และขณะนี้การฉีดวัคซีนเช่นเดียวกันได้เริ่มต้นขึ้นแล้วในออสเตรเลีย

แต่ยังคงมีข้อมูลไม่มากนักด้านการทดลองวัคซีนโควิดในหมู่ประชาชนที่มีอาการป่วยบางอย่าง หรือในหมู่ประชาชนบางกลุ่ม โดยเฉพาะสตรีมีครรภ์และผู้สูงอายุ

ข้อมูลต่อไปนี้ เป็นคำอธิบายจากผู้เชี่ยวชาญด้านการสุขภาพจากกระทรวงสาธารณสุขของรัฐบาลสหพันธรัฐออสเตรเลียน และจากกลุ่มที่ปรึกษาด้านเทคนิคเกี่ยวกับการสร้างภูมิคุ้มกันโรคแห่งออสเตรเลีย (เอทีเอจีไอ หรือ ATAGI)

ฉันตั้งครรภ์อยู่ ฉันควรได้รับการฉีดวัคซีนหรือไม่?

ข้อมูลล่าสุดจากเอทีเอจีไอสำหรับสตรีมีครรภ์ในการรับการฉีดวัคซีนของไฟเซอร์/ไบออนเทค คือ องค์กร “ไม่แนะนำวัคซีนโควิด-19 เป็นวัคซีนพื้นฐานที่ควรฉีดระหว่างตั้งครรภ์”

นั่นหมายความว่า หากคุณไม่มีปัจจัยเสี่ยงที่จะป่วยจากเชื้อโควิด-19 อย่างรุนแรง หรือไม่มีความเสี่ยงสูงที่จะสัมผัสเชื้อ คุณอาจเลือกที่จะรอจนหลังการตั้งครรภ์
There are many questions about the safety of the COVID vaccine to pregnant women
The vaccines haven't been tested on pregnant women. Source: Getty Images
ศ.จูเลีย ลีสค์ จากมหาวิทยาลัยซิดนีย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการวัคซีนของประชาชน กล่าวว่า ไม่ใช่สิ่งที่น่าวิตก เนื่องจากทางการเพียงแค่ต้องการดำเนินการ “อย่างรอบคอบเป็นพิเศษ” เท่านั้น

“เหตุผลที่พวกเขายังไม่แนะนำให้ฉีด เพราะยังไม่มีการทำการศึกษาวิจัยอย่างจริงจังเกี่ยวกับความปลอดภัยและความมีประสิทธิภาพของวัคซีนในสตรีมีครรภ์” ศ.ลีสค์ กล่าว

เป็นความจริงที่สตรีมีครรภ์ไม่ได้รวมอยู่ในการทดลองวัคซีนในมนุษย์ครั้งสำคัญต่างๆ ที่เกิดขึ้นสำหรับวัคซีนที่ออสเตรเลียสั่งซื้อ ดังนั้น ข้อมูลสำหรับคนกลุ่มนี้จึงมีน้อย แต่มีหลายคนที่ไม่รู้ว่าตนกำลังตั้งครรภ์หรือตั้งครรภ์ระหว่างการทดลองวัคซีนที่เกิดขึ้นในสหรัฐและสหราชอาณาจักร และนักวิทยาศาสตร์กำลังเฝ้าจับตาดูพวกเธออย่างใกล้ชิด จนถึงขณะนี้ ไม่มีรายงานใดๆ ว่าวัคซีนส่งผลที่เป็นอันตรายต่อสตรีมีครรภ์เหล่านั้น

ศ.ลีสต์ กล่าวว่า เธอคาดว่าคำแนะนำเกี่ยวกับวัคซีนสำหรับสตรีมีครรภ์จะเปลี่ยนแปลงไปเมื่อเวลาผ่านไปและมีการประเมินข้อมูลมากขึ้น
หากคุณมีความเสี่ยงที่จะป่วยหนักจากเชื้อไวรัสโคโรนา หรือคุณมีความเสี่ยงสูงที่จะสัมผัสเชื้อ ก็มีคำแนะนำให้คุณควรฉีดวัคซีน แม้คุณจะตั้งครรภ์ เอทีเอจีไอ กล่าวว่า “จากความเข้าใจของเราเกี่ยวกับวัคซีน เราไม่คาดว่ามันจะก่อให้เกิดปัญหาที่ร้ายแรงในหมู่สตรีมีครรภ์หรือต่อทารกในครรภ์”

วัคซีนจะกระทบต่อภาวะเจริญพันธุ์ หรือการให้นมทารกของฉันหรือไม่?

ศ.ลีสค์ กล่าวว่า จากข้อมูลล่าสุดชี้ว่า สตรีในวัย 20 ปีเศษและ 30 ปีเศษ เป็นกลุ่มที่มีแนวโน้มจะรู้สึกลังเลใจเกี่ยวกับวัคซีนโควิด ซึ่งไม่น่าประหลาดใจ

“มีความลังเลใจมากกว่าคนกลุ่มอื่นเล็กน้อยในหมู่ผู้หญิงในวัยที่มีบุตรได้ เราสงสัยว่า อาจเป็นเพราะพวกเธอต้องการให้แน่ใจอย่างที่สุดว่า วัคซีนจะปลอดภัยสำหรับพวกเธอและสำหรับทารกในครรภ์”
Professor Julie Leask from the University of Sydney.
Professor Julie Leask from the University of Sydney. Source: SBS News
เช่นเดียวกัน มีการส่งเสริมให้แม่ที่กำลังอยู่ในช่วงให้นมทารกไปรับการฉีดวัคซีนด้วย คำแนะนำระบุว่า คุณไม่จำเป็นต้องหยุดให้นมทารกก่อนหรือหลังการฉีดวัคซีน บางคนวิตกว่า วัคซีนอาจถูกส่งผ่านไปยังทารกผ่านน้ำนมแม่ แต่เอทีเอจีไอ ยืนยันว่า ไม่มีอันตรายใดๆ แม้จะเป็นเช่นนั้นก็ตาม

“เราไม่คิดว่ามันจะถูกส่งผ่านการให้นมบุตร แต่ถึงแม้มันจะเกิดขึ้น มันจะถูกทำลายไปในกระเพาะของทารก ดังนั้นจึงไม่น่าจะเป็นไปได้อย่างยิ่งที่จะส่งผลกระทบต่อทารกของคุณ” เอทีเอจีไอ กล่าว

ฉันเป็นโรคภูมิแพ้อย่างหนัก ฉันควรไปรับการฉีดวัคซีนหรือไม่?

คำแนะนำของเอทีเอจีไอ ระบุว่า วัคซีนของไฟเซอร์/ไบออนเทค สามารถฉีดอย่างปลอดภัยให้แก่ประชาชนที่เป็นโรคภูมิแพ้ ทั้งแพ้อาหาร แพ้แมลงกัดต่อย และแพ้ยา

คนกลุ่มเดียวที่อาจไม่สามารถรับการฉีดวัคซีนตัวนี้ได้คือ ผู้ที่เกิดอาการแพ้ชนิดรุนแรงเฉียบพลันที่อาจทำให้เสียชีวิตได้ (anaphylaxis) หลังฉีดวัคซีนครั้งก่อนๆ หรือมีประวัติการเกิดอาการดังกล่าวจากสารองค์ประกอบของวัคซีน รวมทั้ง โพลีเอธิลีน ไกคอล (polyethylene glycol หรือ PEG)
Allergic reactions to the Pfizer/BioNtech vaccine are said to be incredibly rare.
Allergic reactions to the Pfizer/BioNtech vaccine are said to be incredibly rare. Source: Photonews
ศ.แกรี โกรห์แมนน์ นักไวรัสวิทยา ที่ได้ทำงานอย่างใกล้ชิดกับองค์การอนามัยโลก (WHO) และเป็นสมาชิกของสัมพันธมิตรการสร้างภูมิคุ้มกันโรคแห่งออสเตรเลีย กล่าวว่า ปฏิกิริยาภูมิแพ้นั้นพบได้ไม่บ่อยนัก

“อัตราต่ำมาก ซึ่งถือว่าโชคดี คือราว 11 คนต่อ 1 ล้านคน” ศ.โกรห์แมนน์ กล่าว

“อย่างไรก็ตาม มันเป็นการเตือนว่า ผู้ใดที่มีอาการภูมิแพ้จำเป็นต้องปรึกษาแพทย์และผู้ที่ฉีดวัคซีนให้จำเป็นต้องคอยจับตาดูผู้ที่รับการฉีดวัคซีนอย่างน้อย 15-30 นาที (หลังฉีดวัคซีนเสร็จแล้ว)”

เอทีเอจีไอ แนะนำให้ผู้ใดที่มีประวัติเคยเกิดอาการแพ้ชนิดรุนแรงเฉียบพลันที่อาจทำให้เสียชีวิตได้ (anaphylaxis) หรือผู้ที่แพทย์แนะนำให้พก อีพิเพน (EpiPen) ให้ต้องคอยดูอาการ 30 นาที (แทนที่จะเป็น 15 นาทีตามปกติ) หลังได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว เพื่อให้แน่ใจว่าปลอดภัย

ฉันมีภูมิคุ้มกันต่ำ หรือมีอาการทางสุขภาพ จะปลอดภัยหรือไม่?

วัคซีนของไฟเซอร์/ไบออนเทค นั้นแนะนำให้ฉีดสำหรับประชาชนที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ โดยเฉพาะเนื่องจากพวกเขามีความเสี่ยงมากกว่าใครที่จะป่วยหนักเพราะเชื้อโควิด แม้เอทีเอจีไอจะกล่าวว่า ยังไม่มีข้อมูลในขณะนี้เรื่องความปลอดภัยและประสิทธิภาพของวัคซีนในคนกลุ่มนี้ เนื่องจากพวกเขาไม่ได้เข้าร่วมการทดลองวัคซีนในมนุษย์ที่เคยเกิดขึ้น

ศ.โกรห์แมนน์ กล่าวว่า ผู้ที่อยู่ในคนกลุ่มนี้ ควรปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับการฉีดวัคซีนโควิด-19
gettyimages-1287482473.jpg
“ขณะที่ชุดข้อมูลยังคงไม่สมบูรณ์ แต่จากการประเมินด้านความเสี่ยงแล้ว อาจยังคงคุ้มค่าที่คุณจะได้รับการฉีดวัคซีน แต่ขอให้คุณต้องปรึกษาแพทย์จีพีของคุณ หรือเจ้าหน้าที่ด้านสุขภาพก่อนเสมอ” ศ.โกรห์แมนน์ กล่าว

“ประสิทธิภาพสำหรับผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำน่าจะต่ำลง รวมทั้งประสิทธิผลด้วย” เขากล่าว

“แต่มันไม่ได้หมายความว่า พวกเขาจะไม่ได้รับการปกป้องจากการป่วยหนักจนทำให้ต้องเข้าโรงพยาบาล ต้องเข้าห้องฉุกเฉิน หรือแม้แต่เสียชีวิต”

มันปลอดภัยสำหรับคนอายุมากที่ร่างกายอ่อนแอและผู้สูงอายุหรือไม่?

เอทีเอจีไอ ยังไม่ได้มีคำแนะนำที่เฉพาะเจาะจงเกี่ยวกับผู้สูงอายุที่ร่างกายอ่อนแอ แต่แนะนำให้แต่ละบุคคล “ควรได้รับการประเมินอย่างระมัดระวังเป็นรายบุคคลไป”

ศ.โกรห์แมนน์ กล่าวว่า สำหรับคนกลุ่มนี้ เนื่องจากผลข้างเคียงของวัคซีน แม้จะมีน้อยมาก แต่สำคัญที่จะต้องไตร่ตรองประโยชน์ของวัคซีนกับอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้
“สำหรับผู้ที่ร่างกายอ่อนแอเป็นอย่างยิ่ง บางทีการฉีดวัคซีนให้พวกเขาอาจไม่ใช่ความคิดที่ดี ดังนั้น เอทีเอจีไอ และองค์กรอื่นๆ จึงแนะนำให้ควรมีการประเมินเป็นรายบุคคลไป”

เมื่อเดือนที่แล้ว มีรายงานว่า โดยเฉพาะวัคซีนออกซ์ฟอร์ด-แอสตราเซนากา อาจไม่ปลอดภัยสำหรับผู้สูงอายุ หลังประเทศในยุโรปหลายประเทศรับรองวัคซีนนี้สำหรับฉีดให้คนอายุต่ำกว่า 65 ปีเท่านั้น

แต่ ศ.โกรห์แมนน์ กล่าวว่า “เราไม่ควรตระหนกตกใจกับเรื่องนี้ นั่นเป็นเพียงมาตรการป้องกันล่วงหน้าด้านความปลอดภัยเท่านั้น เพราะยังคงไม่มีข้อมูล”

“เราจำเป็นต้องมีข้อมูลมากกว่านี้ในการประเมินผลของวัคซีนเหล่านั้น ทั้งในด้านประสิทธิภาพและความปลอดภัยในผู้สูงอายุ และโดยเฉพาะผู้ที่ร่างกายอ่อนแอ”
Experts say the Covid-19 vaccine will be similar to getting the annual flu jab.
Experts say the Covid-19 vaccine will be similar to getting the annual flu jab. Source: Press Association

ฉันเกรงว่า ฉันจะติดเชื้อจากการฉีดวัคซีน มันเป็นไปได้หรือไม่?

ศ.เอเดรียน แอสเตอร์แมน นักระบาดวิทยา จากมหาวิทยาลัยเซาท์ออสเตรเลีย กล่าวว่า การติดเชื้อไวรัสโคโรนาจากการฉีดวัคซีนนั้นเป็นไปไม่ได้

“ไม่มีวัคซีนเหล่านี้ใดๆ ที่มีเชื้อไวรัสที่ยังเป็นๆ อยู่ ดังนั้น จึงไม่มีโอกาสเลยที่คนจะติดเชื้อไวรัสผ่านการฉีดวัคซีน”

เช่นเดียวกับโอกาสที่จะติดเชื้อโควิด-19 จากศูนย์ฉีดวัคซีน ซึ่งประชาชนไม่ควรวิตก เพราะมีมาตรการด้านสุขภาพที่ใช้บังคับอย่างเข้มงวด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการสวมหน้ากากอนามัย และการรักษาระยะห่างระหว่างบุคคล

แล้วข้อมูลส่วนตัวของฉันล่ะ มันจะถูกเก็บไว้โดยรัฐบาลใช่หรือไม่?

รัฐบาลจะจัดรักษาข้อมูลบางอย่างเกี่ยวกับคุณเมื่อคุณได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว เพื่อจะได้รู้ว่าใครที่ฉีดวัคซีนแล้วบ้าง

“มีฐานข้อมูลส่วนกลางแห่งชาติสำหรับการฉีดวัคซีน ซึ่งระบุว่าวัคซีนใดบ้างที่คุณเคยฉีดแล้ว วันที่ฉีด วันเกิดของคุณ และปฏิกิริยาแพ้วัคซีนใดๆ ที่คุณอาจเคยมีในอดีต” ศ. แอสเตอร์แมน กล่าว

มันสำคัญที่รัฐบาลต้องมีข้อมูลบางอย่างเหล่านี้เกี่ยวกับการฉีดวัคซีนของคุณ เพื่อที่ว่าพวกเขาจะสามารถติดตามดูอาการที่คุณอาจมีหลังฉีดวัคซีนแล้ว
Just like with Australia's Covid-19 testing clinics, there will be strict public health measures in place to keep everyone safe.
Just like with Australia's Covid-19 testing clinics, there will be strict public health measures in place to keep everyone safe. Source: Getty

ฉันจะสามารถฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ด้วยได้หรือไม่?

เอทีเอจีไอ แนะนำว่า ประชาชนควรรอ 14 วันหลังฉีดวัคซีนโควิดแล้ว สำหรับทั้งวัคซีนของไฟเซอร์/ไบออนเทคและวัคซีนของแอสตราเซเนกา จึงจะสามารถรับการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ได้ องค์กรกล่าวว่า วัคซีนทั้งสองตัวนี้ “บางครั้งอาจทำให้พบปฏิกิริยาข้างเคียงที่เล็กน้อยถึงปานกลางได้บ่อยขึ้น” ดังนั้น จึงจะปลอดภัยกว่า ที่ควรจะรอ

ศ.โกรห์แมนน์ เห็นด้วยว่า “เพื่อเป็นการป้องกัน จึงควรทิ้งระยะห่างกัน 2 สัปดาห์ ซึ่งผมคิดว่านั่นสมเหตุสมผลดี”

ขณะที่ เอทีเอจีไอ ไม่แนะนำให้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 และวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในวันเดียวกัน แต่อาจมีบางสถานการณ์ที่อาจสามารถฉีดวัคซีนทั้งสองร่วมกันได้

ฉันยังคงบริจาคเลือดได้หรือไม่?

สภากาชาดแห่งออสเตรเลีย แนะนำให้ผู้บริจาคเลือดรอ 7 วันหลังจากได้รับวัคซีนแล้ว จึงจะบริจาคเลือดได้

ศ.โกรห์แมนน์ กล่าวว่า นี่น่าจะเพื่อทำให้แน่ใจได้ว่า บุคคลนั้นไม่เกิดผลข้างเคียงใดๆ จากการฉีดวัคซีน
“หากผู้ที่ได้รับวัคซีนจะเกิดปฏิกิริยาต่อวัคซีน หรือเกิดเจ็บป่วย หรือเกิดผลข้างเคียง นั่นมักเกิดขึ้นภายใน 2-3 วันถึงหนึ่งสัปดาห์หลังการฉีดวัคซีน”

“ผมคิดว่า เพราะเหตุผลดังกล่าว จึงควรมีการเว้นระยะห่างระหว่างการฉีดวัคซีนกับการบริจาคเลือด” ศ.โกรห์แมนน์ กล่าว


รายการ เอสบีเอส ไทย ออนไลน์ ออกอากาศสดหนึ่งชั่วโมงเต็ม กดฟังได้ที่เว็บไซต์  ทุกจันทร์และพฤหัสบดี 22.00 น. (เวลาซิดนีย์/เมลเบิร์น) หลังจากนั้นฟังซ้ำได้ทุกเมื่อ

คุณอาจสังเกตว่า เอสบีเอส ไทย ไม่มีความเคลื่อนไหวบนเฟซบุ๊ก แต่คุณยังสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเรา ได้ที่เว็บไซต์  บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้ท่านพลาดสถานการณ์ล่าสุด

นอกจากนี้ คุณยังสามารถรับฟังข่าวสารล่าสุดเป็นภาษาไทยผ่านทางวิทยุออนไลน์ได้ที่แอปฯ SBS Radio


Share
Published 23 February 2021 12:53pm
By Amelia Dunn
Presented by Parisuth Sodsai
Source: SBS News


Share this with family and friends


Follow SBS Thai

Download our apps
SBS Audio
SBS On Demand

Listen to our podcasts
Independent news and stories connecting you to life in Australia and Thai-speaking Australians.
Understand the quirky parts of Aussie life.
Get the latest with our exclusive in-language podcasts on your favourite podcast apps.

Watch on SBS
Thai News

Thai News

Watch in onDemand