'ควอนตัส-เจ็ทสตาร์' เตรียมเลิกบังคับใส่หน้ากากในบางเที่ยวบิน

สองสายการบินใหญ่ออสฯ เตรียมยกเลิกมาตรการบังคับสวมหน้ากากอนามัยสำหรับบางเที่ยวบินต่างประเทศ หลังมีคำแนะนำจากกรรมการคุ้มครองสุขภาพ ขณะที่วัคซีนโควิด-19 ของโนวาแวกซ์ได้รับอนุมัติให้เป็นวัคซีนบูสเตอร์สำหรับผู้ใหญ่แล้ว

Qantas has been named the fifth-best airline in the world in this year's Skytrax international awards.

Qantas has been named the fifth-best airline in the world in this year's Skytrax international awards. Source: Mark Baker

ในเร็ว ๆ นี้ หน้ากากอนามัยอาจไม่จำเป็นอีกต่อไปในเที่ยวบินระหว่างประเทศบางเที่ยวของสายการบินควอนตัส (Qantas) และเจ็ตสตาร์ (Jetstar) ขณะที่สายการบินดังกล่าวเตรียมปรับปรุงนโยบายเพื่อให้สอดคล้องกับกฎระเบียบของจุดหมายปลายทางในต่างประเทศ

ควอนตัส กรุ๊ป (The Qantas Group) ซึ่งเป็นเจ้าของสายการบินเจ็ตสตาร์ด้วยเช่นกัน ระบุในแถลงการณ์เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (14 มิ.ย.) ว่าเตรียมที่จะปรับปรุงนโยบายการสวมหน้ากากอนามัยบนเที่ยวบิน “เร็ว ๆ นี้”

การเปลี่ยนแปลงดังกล่าว หมายความว่าผู้โดยสารจะไม่จำเป็นต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยบนเที่ยวบินไปยังจุดหมายปลายทางซึ่งไม่มีการบังคับให้สวมใส่ เช่น ในสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และทวีปยุโรป

“เราจะยังคงจัดให้มีหน้ากากอนามัยในเที่ยวบินของเราทั้งหมด และเราตระหนักว่าลูกค้าบางส่วนอาจยังต้องการสวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดระยะเวลาในเที่ยวบิน ไม่ว่ากฎในต่างประเทศจะมีผลบังคับใช้เช่นใด” ควอนตัส กรุ๊ป ระบุในแถลงการณ์

การแถลงดังกล่าวเกิดขึ้นหลังมีคำแนะนำจากคณะกรรมการหลักการคุ้มครองสุขภาพออสเตรเลีย (Australian Health Protection Principal Committee) ในการยกเลิกข้อบังคับสวมใส่หน้ากากอนามัยในท่าอากาศยาน โดยผู้เดินทางไม่จำเป็นต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยในอาคารผู้โดยสารอีกต่อไป ตั้งแต่เวลาเที่ยงคืนของวันศุกร์ที่ผ่านมา (17 มิ.ย.)

จากแถลงการณ์ รัฐบาลสหพันธรัฐระบุว่า ก่อนหน้านี้คณะกรรมการ ฯ ไม่ได้พิจารณาว่าข้อบังคับสำหรับอาคารผู้โดยสาร “มีความสมส่วน” สืบเนื่องจากทุกรัฐและมณฑลไดัผ่อนคลายมาตรการสวมใส่หน้ากากอนามัยแล้ว

“รัฐบาลมีข้อสังเกตว่า คณะกรรมการหลักการคุ้มครองสุขภาพออสเตรเลีย (AHPPC) ได้แนะนำอย่างยิ่งให้ชาวออสเตรเลียยังคงสวมใส่หน้ากากอนามัย เพื่อเป็นมาตรการหลักในการช่วยลดการแพร่กระจายของโควิด-19 และไวรัสไข้หวัดใหญ่แถลงการณ์ระบุ

“หน้ากากอนามัยจะช่วยเราปกป้องผู้ที่ตกอยู่ในความเสี่ยงมากที่สุดในชุมชนของเราที่ไม่สามารถรับการฉีดวัคซีนได้ และผู้ที่มีความเสี่ยงสูงที่จะมีอาการเจ็บป่วยอย่างรุนแรง”

ออสฯ อนุมัติ ‘โนวาแวกซ์’ เป็นเข็มบูสเตอร์

วัคซีนโควิด-19 ของโนวาแวกซ์ (Novavax) ได้รับการอนุมัติให้เป็นวัคซีนโควิด-19 เข็มบูสเตอร์สำหรับผู้ที่อายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไปแล้ว

จากแถลงการณ์เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (20 มิ.ย.) โนวาแวกซ์ได้ประกาศว่า หน่วยงานกำกับดูแลผลิตภัณฑ์สุขภาพออสเตรเลีย (TGA) ได้อนุมัติทะเบียนเป็นการชั่วคราวเพื่อใช้เป็นวัคซีนเข็มที่สาม ซึ่งดังกล่าวมีให้เป็นวัคซีนเข็มบูสเตอร์แล้วตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา

“ขณะที่โควิด-19 ยังคงมีอยู่และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เรามีความยินดีที่สามารถมอบวัคซีนที่มีโปรตีนเป็นส่วนประกอบชนิดแรก ซึ่งได้รับการลงทะเบียนเพื่อใช้เป็นวัคซีนชุดแรก และล่าสุดเป็นวัคซีนบูสเตอร์ โดยไม่ต้องคำนึงถึงประวัติการฉีดวัคซีนก่อนหน้า” นายสแตนลีย์ เอิร์ค (Stanley Erck) ประธานบริหารโนวาแวกซ์ กล่าว

การอนุมัติวัคซีนดังกล่าวมีพื้นฐานจากข้อมูลที่รวมถึงการทดลองในระยะที่ 2 ซึ่งจัดขึ้นในออสเตรเลีย และอีกการทดลองหนึ่งในแอฟริกาใต้ ซึ่งผลลัพธ์ได้แสดงให้เห็นว่า วัคซีนโนวาแวกซ์โดสที่ 3 ได้สร้าง “การตอบสนองของภูมิคุ้มกันที่เพิ่มขึ้น เทียบได้หรือเกินระดับที่เกี่ยวกับการป้องกัน”
Novavax has been approved as a COVID-19 booster for people aged 18 and above.
วัคซีนโนวาแวกซ์ได้รับการอนุมัติให้เป็นวัคซีนบูสเตอร์สำหรับผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป Source: AAP
นอกจากนี้ วัคซีนดังกล่าว “ยังกระตุ้นให้เกิดการตอบสนองของแอนติบอดีอย่างแข็งแรง” เมื่อใช้เป็นวัคซีนเข็มบูสเตอร์ โดยทีจีเอได้อนุมัติทะเบียนชั่วคราวเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมาสำหรับการใช้ในผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป

เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา กลุ่มที่ปรึกษาทางเทคนิคด้านการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันแห่งออสเตรเลีย (ATAGI) แนะนำวัคซีนโนวาแวกซ์สำหรับใช้เป็นวัคซีนเข็มบูสเตอร์สำหรับผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ในกรณีไม่เหมาะสมที่จะรับการฉีดวัคซีนชนิด mRNA อย่างไฟเซอร์ หรือโมเดิร์นา

ต่อมาในเดือนพฤษภาคม บริษัทดังกล่าวได้ยื่นขอจดทะเบียนวัคซีนเพื่อใช้ในกลุ่มวัยรุ่นอายุระหว่าง 12-17 ปี ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกับที่ผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันโรคติดเชื้อซิดนีย์ (Sydney Institute for Infectious Diseases หรือ SIID) จากมหาวิทยาลัยซิดนีย์ ได้เรียกร้องให้มียุทธ์ศาสต์คุ้มครองสุขภาพระดับชาติ

ศาสตราจารย์เบน มาเรส์ (Ben Marais) ผู้อำนวยการร่วมของสถาบัน ฯ กล่าวว่า หนึ่งในคำสัญญาในช่วงเลือกตั้งของพรรคแรงงานคือการจัดตั้งศูนย์ควบคุมโรคติดต่อออสเตรเลีย (Australian Centre for Disease Control)

การแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้แสดงให้เห็นว่าออสเตรเลียขาดกลไกระดับชาติในการรวบรวมข้อมูลการเฝ้าระวังโรคติดต่ออย่างมีประสิทธิภาพ การประสานการตอบสนอง และดำเนินการวิจัยประยุกต์เพื่อรายงานนโยบายและชี้นำการตัดสินใจ

“ยุทธศาสตร์คุ้มครองสุขภาพระดับชาติสำหรับชาวออสเตรเลียทุกคน มีความเร่งด่วนเพิ่มมากขึ้น” ศาสตราจารย์มาเรส์ กล่าวในแถลงการณ์เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (14 มิ.ย.)

ศาสตราจารย์มาเรส์ กล่าวอีกว่า จำเป็นจะต้องมีการพิจารณาและปรึกษาหารืออย่างระมัดระวังในการจัดตั้งองค์กรดังกล่าว ซึ่งจำเป็นต้องมีบทบาทนำในการป้องกัน เตรียมพร้อม และตอบสนองต่อการแพร่ระบาดของโรคติดต่อ

เขากล่าวอีกว่า องค์กรระดับชาติดังกล่าวนั้น จำเป็นที่จะต้องรวบรวมผู้เชี่ยวชาญในสาขาต่าง ๆ เข้าด้วยกัน ทั้งนักวิจัย นักระบาดวิทยา นักจุลชีววิทยาสาธารณสุข ผู้ปฏิบัติงานด้านสาธารณสุข เช่นเดียวกับผู้เชี่ยวชาญด้านการสื่อสาร การป้องกันและควบคุมการติดเชื้อ และผู้จัดทำนโยบาย




คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์  

บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่ 
เรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจจาก เอสบีเอส ไทย

อัตราค่าแรงขั้นต่ำของออสเตรเลียเพิ่ม 5.2%


Share
Published 20 June 2022 2:39pm
Updated 20 June 2022 5:24pm
Presented by Tinrawat Banyat
Source: AAP, SBS


Share this with family and friends


Follow SBS Thai

Download our apps
SBS Audio
SBS On Demand

Listen to our podcasts
Independent news and stories connecting you to life in Australia and Thai-speaking Australians.
Understand the quirky parts of Aussie life.
Get the latest with our exclusive in-language podcasts on your favourite podcast apps.

Watch on SBS
Thai News

Thai News

Watch in onDemand