รัฐวิกตอเรียพบติดโควิดเพิ่มอีก 723 อาจยืดเวลาล็อกดาวน์เมลเบิร์น

ทุบสถิติอีกวัน ยอดติดเชื้อโควิดรายใหม่รัฐวิกตอเรียวันนี้พุ่งเกือบพัน เสียชีวิต 13 ราย มุขมนตรีลั่นสัปดาห์หน้าบังคับใส่หน้ากากอนามัยทุกพื้นที่ ส่อแววยืดเวลาล็อกดาวน์เมลเบิร์นต่อไปอีก ส่วนการระบาดในเอจแคร์ยังน่าห่วง

People are seen wearing masks in the Fitzroy Gardens in Melbourne, Wednesday, July 29, 2020. There are now 4775 active COVID-19 cases across Victoria and 769 of those are linked to aged care homes. (AAP Image/Daniel Pockett) NO ARCHIVING

All Victorians will now be required to wear masks, not just those in Melbourne and Mitchell Shire. Source: AAP

วันนี้ (30 ก.ค.) รัฐวิกตอเรียได้บันทึกยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนารายใหม่ 723 ราย ทำลายสถิติก่อนหน้าหน้านี้ไปเกือบ 200 ราย ขณะที่วันนี้มีรายงานผู้เสียชีวิต 13 ราย

ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวันสูงสุดในรัฐวิกตอเรียก่อนหน้านี้อยู่ที่ 532 ราย เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (27 ก.ค.)

นายแดเนียล แอนดรูส์ มุขมนตรีรัฐวิกตอเรีย ได้ประกาศในวันนี้ว่า ประชาชนในพื้นที่ส่วนภูมิภาครัฐวิกตอเรีย จะต้องสวมหน้ากากอนามัยเมื่อออกจากบ้าน เช่นเดียวกับประชาชนในพื้นที่มหานครเมลเบิร์น และพื้นที่มิตเชลล์ ไชร์ ตั้งแต่สัปดาห์หน้าเป็นต้นไป

โดยตั้งแต่เวลา 23:59 น. ของวันอาทิตย์ที่ 2 ส.ค.นี้ ประชาชนในพื้นที่ส่วนภูมิภาครัฐวิกตอเรียจะต้องสวมหน้ากากอนามัย หรืออุปกรณ์ปกคลุมใบหน้าเมื่อออกจากบ้าน

ส่วนผู้อาศัยอยู่ในพื้นที่ปกครองส่วนท้องถิ่น Greater Geelong, Surf Coasts, Moorabool, Golden Plains, Colac-Otway และ Queenscliff จะไม่สามารถมีผู้มาเยี่ยมบ้านได้ ตั้งแต่เวลา 23:59 น. ของคืนวันนี้เป็นต้นไป (30 ก.ค.)

ข้อมูลล่าสุด ณ วันนี้ พบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาที่ยังมีอาการ 255 ราย ในพื้นที่ส่วนภูมิภาคของรัฐวิกตอเรีย โดยมุขมนตรีแอนดรูส์ได้กล่าวว่า มาตรการจำกัดห้ามในพื้นที่มหานครเมลเบิร์นนั้น จะเป็นประโยชน์ในการหยุดการแพร่ระบาดของไวรัสนี้ในพื้นที่ส่วนภูมิภาค

“มันเป็นสิ่งที่สามารถทำได้ในพื้นที่ส่วนภูมิภาค โดยไม่สร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวงต่อระบบเศรษฐกิจ แต่เป็นการให้ประโยชน์อย่างมากในด้านสาธารณสุข” นายแอนดรูส์กล่าว

นายแอนดรูส์ กล่าวว่า สถานบริการ อย่างเช่น ผับและร้านกาแฟในพื้นที่ Greater Geelong และพื้นที่ปกครองส่วนท้องถิ่นอื่น ๆ อีก 6 จุด จะยังสามารถเปิดให้บริการได้ตามปกติ เนื่องจากมีข้อมูลที่แสดงให้เห็นว่า การแพร่เชื้อในพื้นที่ดังกล่าวไม่ได้เกิดขึ้นในอัตราสูง

“พื้นที่ส่วนใหญ่ซึ่งเกิดการแพร่เชื้อ แน่นอนว่าเป็นสถานที่ทำงาน แต่การแพร่เชื้อบางส่วนเกิดขึ้นในครัวเรือน และมันมีเหตุผลเมื่อคุณคิดถึงมัน เพราะผู้คนไม่จำเป็นต้องรักษาระยะห่างเมื่อถึงเวลาครอบครัว” นายแอนดรูส์กล่าว

“มันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ และนั่นคือการที่คุณการ์ดตก”

นอกจากนี้ มุขมนตรีรัฐวิกตอเรีย กล่าวว่า เขาได้รับรายงานผู้เสียชีวิต 10 ราย ที่มีความเชื่อมโยงกับวิกฤตในสถานดูแลผู้สูงอายุรัฐวิกตอเรีย โดยระบุว่า หน่วยงานด้านสาธารณสุขจะยืนยันตัวเลขดังกล่าวในวันนี้

ก่อนหน้านี้ มีการคาดการณ์ว่า จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่รายวันเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา คือจุดสูงสุดของสถานการณ์ในรัฐวิกตอเรีย โดยจำนวนดังกล่าวลดลงมาเหลือ 384 รายเมื่อวันอังคาร (28 ก.ค.) และ 295 รายเมื่อวันพุธ (29 ก.ค.) ซึ่งเป็นตัวเลขต่ำที่สุด ตั้งแต่เมื่อวันที่ 20 ก.ค. ก่อนที่จะกลับมาเพิ่มสูงอีกครั้งในวันนี้ (30 ก.ค.)

จนถึงขณะนี้ มีประชาชนรัฐวิกตอเรีย 312 ราย รับการรักษาตัวในโรงพยาบาลจากเชื้อไวรัสโควิด-19 หนึ่งในนั้นมี 34 รายอยู่ในแผนกวิกฤต (ไอซียู) ส่วนในสถานดูแลผู้สูงอายุทั่วรัฐ มีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ยังแสดงอาการ 913 ราย

นายแอนดรูส์ กล่าวว่า ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เพิ่มสูงเป็นประวัติการณ์ในวันนี้ “สร้างความกังวลเป็นอย่างมากในชุมชน” โดยแนะนำว่า มาตรการล็อกดาวน์ระยะเวลา 6 สัปดาห์ในพื้นที่นครเมลเบิร์น ควรได้รับการขยายเวลาออกไป

“หากเราเปิดพื้นที่มหานครเมลเบิร์น และพื้นที่มิตเชลล์ ไชร์ ในวันนี้ ยอดผู้ติดเชื้อใหม่จะไม่ใช่วันละ 700 คน คุณเติมเลขศูนย์ต่อท้ายตัวเลขนั้นได้เลย” นายแอนดรูส์กล่าว

เจ้าหน้าที่กองทัพออสเตรเลียได้ปฏิบัติการเคาะประตูบ้านของผู้ที่มีผลตรวจไวรัสโคโรนาเป็นบวก 798 หลังคาเรือน เพื่อทำให้แน่ใจว่า พวกเขากักกันตนเองอยู่ในที่พักอาศัย และปฏิบัติตามคำสั่งด้านสุขภาพต่าง ๆ อย่างเคร่งครัด

นายแอนดรูส์ กล่าวว่า เขารู้สึกผิดหวังเมื่อทราบว่ามีผู้ที่ไม่กักกันตนเองอยู่ในที่พักอาศัย โดยเฉพาะผู้ที่ออกไปทำงาน

“หากคุณได้รับผลตรวจเป็นบวก คุณต้องอยู่ที่บ้าน และจำเป็นต้องกักกันตนเอง การที่เราทราบว่ามีใครสักคนเลือกที่จะเดินทางไปทำงาน โดยไม่สนใจผลตรวจของตนเอง มันเป็นเรื่องที่น่าผิดหวังอย่างมาก” นายแอนดรูส์กล่าว


ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เขตมหานครของเมลเบิร์นต้องปฏิบัติตามคำสั่ง “ให้อยู่บ้าน” และสามารถออกจากเคหสถานได้เฉพาะเมื่อออกไปทำงานหรือไปเรียน ไปออกกำลังกาย ไปทำหน้าที่ให้การดูแล และไปซื้ออาหารหรือสิ่งของจำเป็นเท่านั้น ยังมีคำแนะนำให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะด้วย

ประชาชนในออสเตรเลียต้องอยู่ห่างกับผู้อื่นอย่างน้อย 1.5 เมตร คุณสามารถตรวจดูว่ามีข้อจำกัดใดบ้างที่บังคับใช้อยู่ในรัฐและมณฑลของคุณ 

การตรวจเชื้อไวรัสโคโรนาขณะนี้สามารถทำได้ทั่วออสเตรเลีย หากคุณมีอาการของไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ ให้ติดต่อขอรับการตรวจเชื้อได้ด้วยการโทรศัพท์ไปยังแพทย์ประจำตัวของคุณ หรือโทรศัพท์ติดต่อสายด่วนให้ข้อมูลด้านสุขภาพเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนา (Coronavirus Health Information Hotline) ที่หมายเลข 1800 020 080

รัฐบาลสหพันธรัฐออสเตรเลียยังได้มีแอปพลิเคชัน COVIDSafe เพื่อติดตามและแจ้งเตือนผู้ที่พบปะใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งคุณสามารถดาวน์โหลดมาใช้ได้จากแอปสโตร์ (app store) สำหรับโทรศัพท์มือถือของคุณ อ่านเกี่ยวกับแอปพลิเคชันนี้ 

คุณสามารถอ่านข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19) เป็นภาษาไทยได้

ติดตาม เอสบีเอส ไทย ทางเฟซบุ๊กได้ที่ 

Share
Published 30 July 2020 1:24pm
Updated 30 July 2020 1:44pm
By Evan Young
Presented by Tinrawat Banyat


Share this with family and friends


Follow SBS Thai

Download our apps
SBS Audio
SBS On Demand

Listen to our podcasts
Independent news and stories connecting you to life in Australia and Thai-speaking Australians.
Understand the quirky parts of Aussie life.
Get the latest with our exclusive in-language podcasts on your favourite podcast apps.

Watch on SBS
Thai News

Thai News

Watch in onDemand