Explainer

เจ้าของบ้านเช่าขอขึ้นค่าเช่าใช่ไหม? นี่คือสิ่งที่คุณสามารถทำได้

ค่าเช่าบ้านกำลังเพิ่มขึ้นทั่วออสเตรเลียและคาดว่าจะเพิ่มสูงกว่านี้อีก

Woman opening the door of her house to welcome visitors

Rents are rising in capital cities across Australia. Source: Getty / Justin Case

ค่าเช่าบ้านที่สูงขึ้นในหลายพื้นที่ของออสเตรเลียกำลังกดดันครัวเรือนที่ต่างก็ประสบความยากลำบากอยู่แล้วจากค่าครองชีพ

ค่าเช่าบ้านได้เพิ่มขึ้นในนครหลวงของรัฐและมณฑลทั้ง 8 แห่งของออสเตรเลียในปีที่ผ่านมา จากข้อมูลในรายงานของโดเมน (Domain) ด้านการเช่าที่อยู่อาศัยในเดือนกันยายน 2022

ค่าเช่าบ้านในนครหลวงต่างๆ โดยรวมเพิ่มสูงขึ้นเฉลี่ย 12.8 เปอร์เซ็นต์สำหรับบ้าน และ 16.7 เปอร์เซ็นต์สำหรับยูนิตหรืออะพาร์ตเมนต์ เมื่อเปรียบเทียบปีต่อปีสำหรับเดือนกันยายน

“เราอยู่ในตลาดที่ค่าเช่าบ้านเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วเป็นพิเศษในขณะนี้” คุณลีโอ แพตเทอร์สัน รอสส์ ซีอีโอ ของสหภาพผู้เช่าที่อยู่อาศัยในนิวเซาท์เวลส์ (Tenants' Union of NSW) บอกกับ เอสบีเอส นิวส์
A bar chart showing how much houses cost to rent in each state
ค่าเช่ารายสัปดาห์ได้เพิ่มขึ้น 12.8 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเปรียบเทียบรายปี
ครัวเรือนเกือบ 1 ใน 3 ในออสเตรเลียเช่าบ้านที่พวกเขาอาศัยอยู่ จากสถิติการสำรวจ

ในปี 2021 จากครัวเรือนทั้งหมดที่พบ 9.8 ล้านครัวเรือน ร้อยละ 31 (2.9 ล้านครัวเรือน) กำลังเช่าที่อยู่อาศัย โดยส่วนใหญ่ (2.4 ล้านครัวเรือน) เช่าจากเจ้าของบ้านที่เป็นบุคคลทั่วไป

เหตุใดค่าเช่าบ้านจึงสูงขึ้นทั่วออสเตรเลีย?

ในขณะที่ราคาเช่าที่อยู่อาศัยลดลงในบางพื้นที่ของประเทศในช่วงโควิด-19 ระบาดใหญ่ แต่อุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นและการขาดอุปทานกำลังส่งผลให้บ้านเช่าที่ว่างอยู่มีปริมาณต่ำในตลาด โดยต่ำกว่าช่วงก่อนเกิดโควิดในหลายพื้นที่
A bar chart showing the cost of units in each Australian capital city
ค่าเช่าได้เพิ่มขึ้นสำหรับยูนิตหรืออะพาร์ตเมนต์เมื่อเทียบปีต่อปีในนครหลวงของรัฐและมณฑลต่างๆ ทุกแห่งของออสเตรเลีย Source: SBS
“ทุกอย่างถูกผลักดันจากปริมาณบ้านเช่าที่ว่างอยู่ที่มีน้อย” คุณสตีฟ มิกเคนเบ็กเคอร์ หัวหน้านักวิเคราะห์ของเว็บไซต์เปรียบเทียบทางการเงินแคนสตาร์ (Canstar) กล่าว

"บ้านที่ว่างอยู่ที่มีปริมาณต่ำลง หมายความว่าเจ้าของบ้านสามารถเพิ่มค่าเช่าและยังคงหาคนเช่าได้ ซึ่งทั้งหมดนี้ขับเคลื่อนโดยอุปสงค์และอุปทาน ดังนั้น มีบางสิ่งบางอย่างในสมการด้านอุปสงค์ที่ผลักดันความต้องการจากผู้เช่าให้สูงขึ้นในทันทีหลังช่วงโควิด สำหรับอสังหาริมทรัพย์ให้เช่า”

การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมาตรฐานของแบงค์ชาติเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้มีการขึ้นค่าเช่าหรือเปล่า?

เมื่อวันอังคารที่ 6 ธันวาคม ธนาคารกลางออสเตรเลีย (อาร์บีเอ) ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมาตรฐาน สู่ระดับสูงสุดในรอบ 10 ปี ทำให้ต้นทุนการกู้ยืมเงินเพิ่มขึ้นและทำให้โอกาสในการเป็นเจ้าของบ้านอยู่ไกลเกินเอื้อมสำหรับผู้ซื้อบ้านหลังแรกจำนวนมากที่กำลังเช่าบ้านอยู่ แต่เรื่องนี้ส่งผลกระทบในทันทีและกระทบโดยตรงต่อราคาค่าเช่าหรือไม่?

“ค่าเช่าถูกผลักดันจากปริมาณบ้านเช่าที่ว่างอยู่ในพื้นที่ที่คุณต้องการเช่า นั่นคือปัจจัยสำคัญที่สุด” คุณมิกเคนเบ็กเคอร์ กล่าว
ค่าเช่าถูกผลักดันจากปริมาณบ้านเช่าที่ว่างอยู่ในพื้นที่ที่คุณต้องการเช่า นั่นคือปัจจัยสำคัญที่สุด
สตีฟ มิกเคนเบ็กเคอร์ จากแคนสตาร์
“ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับต้นทุนของเจ้าของบ้านเช่าจากอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น ถ้าพวกเขามีโอกาสจะเพิ่มค่าเช่าเพราะบ้านเช่าที่ว่างอยู่มีอัตราต่ำในพื้นที่ พวกเขาก็จะทำ พวกเขาจะพูดว่า 'ถ้าเราสามารถได้ค่าเช่ามากขึ้นอีก 100 ต่อสัปดาห์สำหรับอสังหาริมทรัพย์หลังนี้ เราก็จะขึ้นค่าเช่าดีกว่า ไม่ว่าต้นทุนของเราจะเพิ่มขึ้นหรือไม่ก็ตาม'”

“ดังนั้น ในระยะสั้น บ้านเช่าที่ว่างอยู่ที่มีในอัตราต่ำทำให้ค่าเช่าสูงขึ้น”

ค่าเช่าจะสูงขึ้นต่อไปอีกนานแค่ไหน และจะส่งผลอย่างไรบ้างต่อผู้เช่า?

ยังไม่ชัดเจนว่าค่าเช่าจะสูงขึ้นต่อไปนานเพียงใด แต่คุณแพตเทอร์สัน รอสส์ กล่าวว่า บรรดาครัวเรือนต่างก็รู้สึกเครียดกันแล้ว

“แน่นอนว่าเป็นช่วงเวลาที่น่ากังวลอย่างยิ่ง มีผู้คนมากขึ้นโทรมาหาเรา เพราะกังวลเกี่ยวกับความสามารถของพวกเขาในการหาบ้านหลังใหม่ จำนวนเงินที่พวกเขาต้องกันไว้เพื่อจะได้บ้าน และค่าเช่าบ้านที่เพิ่มขึ้นระหว่างที่เช่าอยู่” คุณแพตเทอร์สัน รอสส์ กล่าว

“แรงกดดันทั้งหมดนี้ควบคู่ไปกับการขึ้นค่าเช่ายังส่งผลให้ผู้คนกังวลอย่างมากและไม่ยอมรายงานปัญหาอื่นๆ เช่นการซ่อมแซมและบำรุงรักษาบ้าน เพราะพวกเขาไม่ต้องการตกเป็นเป้าและถูกขับไล่ออกจากบ้านเช่า จากนั้นก็ต้องหาบ้านหลังใหม่”
การขึ้นค่าเช่าที่เกิดขึ้นในขณะนี้นั้นแตกต่างไปจากปกติเนื่องจาก "ส่งผลกระทบต่อผู้คนในวงกว้างมาก" ไม่ใช่แค่ผู้ที่ "มักประสบความยากลำบากกว่าคนอื่น" คุณแพตเทอร์สัน รอสส์ กล่าว

ผู้คนที่มักได้รับผลกระทบมากที่สุดจากตลาดบ้านเช่าที่มีการแข่งขันสูงได้แก่ ผู้ที่มีรายได้น้อย คนโสด ผู้ที่มีบุตร และผู้พิการ ซึ่ง “ล้วนพบว่ามันยากเย็นแสนเข็ญยิ่งกว่าที่เคยเป็นมา” คุณแพตเทอร์สัน รอสส์ กล่าว

“แต่นั่นก็ยังเกิดขึ้นในบริบทที่แม้แต่คนที่มักหาบ้านเช่าได้ง่ายกว่า ก็ยังพบว่ามันยากมาก แม้จะมีรายได้สูงและมีประวัติการเช่าที่แข็งแกร่งก็ตาม”

คุณแพตเทอร์สัน รอสส์ กล่าวว่า ผู้คนที่โทรศัพท์ไปยังสหภาพผู้เช่า ที่ “อยู่ในความทุกข์ยากที่สุด” คือ “มักเป็นผู้ที่มีลูกๆ เพราะพวกเขากังวลมากว่าจะดูแลครอบครัวและลูกๆ ให้ปลอดภัยได้อย่างไร”

ผู้เช่าบ้านจะสู้กับค่าเช่าที่สูงขึ้นได้อย่างไร?

ผู้เช่าส่วนใหญ่ต้องขึ้นอยู่กับความเมตตาจากตลาด หากพวกเขาต้องการอาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีอัตราบ้านเช่าที่ว่างอยู่ต่ำ คุณมิกเคนเบ็กเคอร์ กล่าว

“คุณสามารถมองหาพื้นที่ที่มีบ้านเช่าที่ว่างอยู่ในอัตราสูงกว่า เพื่อที่คุณจะได้ไม่ตกอยู่ภายใต้แรงกดดันนั้น หากคุณสามารถหาพื้นที่ดังกล่าวได้และมันเป็นพื้นที่ที่สะดวกที่คุณต้องการอาศัยอยู่” คุณมิกเคนเบ็กเคอร์ กล่าว

“นอกเหนือไปจากนั้น คุณก็ต้องติดอยู่ที่เดิมโดยต้องจ่ายค่าเช่ามากกว่าที่เคยจ่าย ก่อนที่สัญญาเช่าจะสิ้นสุดลง หรือก่อนที่คุณจะเลือกย้ายไปอยู่ที่อื่น”
“ไม่มีอะไรมากนักที่ผู้คนสามารถทำได้” เพื่อสู้กับผลกระทบจากค่าเช่าที่สูงขึ้น คุณแพตเทอร์สัน รอสส์ กล่าว

“มีองค์กรการกุศลและการสนับสนุนทางการเงินอื่นๆ ที่อาจช่วยได้ ซึ่งบางองค์กรได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับเงินประกันบ้านเช่าสำหรับการเช่าบ้านหลังใหม่ของครัวเรือนที่มีรายได้ต่ำ แต่สิ่งที่ยากลำบากอย่างแท้จริงก็คือ ไม่มีคำแนะนำที่ดีใดๆ สำหรับระบบที่ไม่ยุติธรรมและแตกสลายเช่นนี้” คุณแพตเทอร์สัน รอสส์ กล่าว

“ดังนั้น ผู้คนจึงควรทำให้แน่ใจได้ว่า ใบสมัครเช่าบ้านของพวกเขาและเอกสารต่างๆ จะครอบคลุมรอบด้านมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่นั่นก็มักมีความหมายเล็กน้อย หากปัญหาพื้นฐานก็คือมีคน 100 คนยื่นขอเช่าอสังหาริมทรัพย์หลังนั้น และคุณไม่ใช่คนที่ร่ำรวยที่สุด หรือเป็นบุคคลที่น่าดึงดูดใจที่สุดสำหรับเจ้าของบ้านหรือเอเจนต์”

คุณมีสิทธิ์อะไรบ้างหากเจ้าของบ้านขึ้นค่าเช่า?

คุณแพตเทอร์สัน รอสส์ กล่าวว่า ผู้เช่าควรติดต่อสหภาพผู้เช่าที่อยู่อาศัยในท้องถิ่น หรือติดต่อศูนย์กฎหมายของชุมชน เพื่อขอทางเลือกทางกฎหมายสำหรับสถานการณ์เฉพาะของพวกเขา

เขากล่าวต่อไปว่า จากความต้องการเช่าที่อยู่อาศัยที่มีสูงในหลายพื้นที่ของออสเตรเลีย ตลาดและกฎหมายจึงให้อำนาจต่อรองที่มากกว่าสำหรับเจ้าของบ้านและผู้จัดการอสังหาริมทรัพย์

ควรมีการเจรจาระหว่างเจ้าของบ้านและผู้เช่าเป็นขั้นตอนแรก เนื่องจากเจ้าของบ้านมีสิทธิ์ตามดุลยพินิจที่จะถอนหรือลดจำนวนค่าเช่าที่เพิ่มขึ้นได้ ผู้เช่าควรติดตามผลการเจรจาและการดำเนินการต่างๆ และบันทึกข้อมูลไว้เป็นลายลักษณ์อักษร

คุณแพตเทอร์สัน รอสส์ กล่าวว่า ผู้เช่าสามารถเลือกที่จะโต้แย้งการขึ้นค่าเช่าได้โดยยื่นคำร้องต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น คณะตุลาการ คณะกรรมาธิการ หรือศาลท้องถิ่น

แต่การดำเนินการดังกล่าวไม่สามารถรับประกันได้ว่า ค่าเช่าที่เพิ่มขึ้นจะถูกยกเลิกหรือลดลง

เพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสิทธิ์ของผู้เช่าที่อยู่อาศัยในรัฐหรือมณฑลของคุณ

รายงานเพิ่มเติมโดย David Aidone และ Biwa Kwan


คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์ 


บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่ 

Share
Published 12 December 2022 1:38pm
By Isabelle Lane
Presented by Parisuth Sodsai
Source: SBS


Share this with family and friends


Follow SBS Thai

Download our apps
SBS Audio
SBS On Demand

Listen to our podcasts
Independent news and stories connecting you to life in Australia and Thai-speaking Australians.
Understand the quirky parts of Aussie life.
Get the latest with our exclusive in-language podcasts on your favourite podcast apps.

Watch on SBS
Thai News

Thai News

Watch in onDemand