ทำไมหน้าหนาว ทำให้เราแซด (SAD)

เคยสังเกตกันไหมว่า ทำไมช่วงฤดูหนาวเรา หรือคนที่เรารู้จักหลายๆ คนมักมีอากาศซึม แซดๆ (SAD) สิ่งนี้มีชื่อเรียก และมันซีเรียสกว่าแค่ว่า "ฉันเศร้า"

Making friends is not easy.

Seasonal Affective Disorder (SAD) คือภาวะซึมเศร้าประเภทหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงของฤดูกาล Credit: Andrew Neel

พูดถึงหน้าหนาว เชื่อว่าชาวเมืองร้อนแบบคนไทยหลายคนต่างโหยหาสิ่งนี้ อยากย้ายมาอยู่เมืองหนาวๆ ให้ฉ่ำใจ ให้สาสมกับที่ทนแดดร้อนที่ไทย ทว่าพอได้มาอยู่จริงๆ อยู่นานวันขึ้น หน้าหนาวเริ่มไม่สนุกอย่างที่คิดไว้ โดยเฉพาะกับสภาพอากาศที่อึมครึม แสงแดดน้อยๆ ฟ้าสีเทา เผลอๆ บางวันอาจมีฝนมาเติม ไหนจะมืดเร็ว จนพาลใจหอเหี่ยว ( หากมีคนข้างกายก็คงดีไม่น้อย – หลายคนคงกำลังคิดแบบนั้น) และมันอาจร้ายแรงทำให้เราแซด (SAD) ได้

เอ๊ะ!! แซด (SAD) คืออะไร ใช่คำที่แปลว่า เศร้า หรือเปล่านะ หรือจริงๆ รุนแรงกว่านั้น ขอชวนแซดบอย แซดเกิร์ล หรือจะแซดในเฉดไหน มาสำรวจสิ่งนี้ไปพร้อมๆ กัน

SAD ที่เป็นมากกว่าแค่ความเศร้า ความแซด

SAD ย่อมาจากอาการภาวะของโรคที่มีชื่อเรียกว่าคือภาวะซึมเศร้าประเภทหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงของฤดูกาล ภาวะนี้เรียกอีกอย่างว่าภาวะซึมเศร้าในฤดูหนาว แม้ว่างานวิจัยบางชิ้นจะแนะนำว่าผู้คนสามารถเป็นโรคนี้ได้ในช่วงเดือนที่อากาศอบอุ่นก็ตาม

แม้ว่าบางครั้งคุณอาจรู้สึกใจห่อเกี่ยวไม่มีเรี่ยวแรงตลอดช่วงเดือนที่อากาศหนาวๆ แต่ SAD ถือเป็นโรคชนิดหนึ่ง ผู้ที่เป็นโรค SAD อาจมีอาการคล้ายกับภาวะซึมเศร้าอย่างรุนแรง รวมถึงการนอนหลับที่หยุดชะงัก ความนับถือตนเองต่ำ ระดับการออกกำลังกายต่ำ และมีความอยากรับประทานคาร์โบไฮเดรตที่สูงขึ้น

ผู้ที่มีอาการ SAD มักจะประสบกับอาการนี้ในเวลาเดียวกันทุกปี
Nick Titov ผู้อำนวยการคลินิกสุขภาพจิตออนไลน์ MindSpot และศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัย Macquarie กล่าวว่า "SADเป็นรูปแบบหนึ่งของภาวะซึมเศร้า" “มันร้ายแรงกว่าความเศร้าในชีวิตประจำวันมาก”

กล่าวกันว่า SAD นั้นพบได้ยากมากในออสเตรเลีย โดนส่วนใหญ่พบได้ทั่วไปในสภาพอากาศที่เย็นกว่าของประเทศในซีกโลกเหนือ ซึ่งบางแห่งได้รับแสงแดดเพียงไม่กี่ชั่วโมง ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นสาเหตุของ SAD ในช่วงฤดูหนาว
Melbourne CBD
เมืองเมลเบิร์นในวันหมอกหนา Source: AAP
ศาสตราจารย์ เกร็ก เมอร์เรย์ (Greg Murray) ผู้อำนวยการศูนย์สุขภาพจิตแห่งมหาวิทยาลัยสวินเบิร์น บอกกับเอบีซีในปี 2020 ว่าเขาเชื่อว่าอาการดังกล่าวส่งผลกระทบต่อ “ชาวออสเตรเลียประมาณหนึ่งใน 300 คน”

ความ SAD ในใจเราเกิดขึ้นจากอะไร?

แม้ว่าการวิจัยเกี่ยวกับ SAD จะมีจำกัด แต่ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ก็เชื่อมโยงเรื่องนี้เข้ากับการขาดแสงแดดที่ร่างกายดูดซึมในช่วงเดือนที่อากาศหนาวเย็น และการรบกวนของนาฬิกาชีวิตหรือจังหวะการเต้นของหัวใจ

การขาดแสงแดดยังส่งผลต่อฮอร์โมนบางชนิดที่ปล่อยออกมาในร่างกาย เช่น เมลาโทนิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่บอกร่างกายว่าถึงเวลานอน และเซโรโทนิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ส่งผลต่ออารมณ์ ความอยากอาหาร และการนอนหลับ

การวิจัยล่าสุดชี้ให้เห็นว่าต้นเหตุของ SAD อาจเป็นวงจรสมองที่เชื่อมต่อเซลล์รับแสงพิเศษในเรตินากับบริเวณสมองที่ส่งผลต่อไม่ว่าคุณจะมีความสุขหรือเศร้า
เมื่อเซลล์ตรวจพบการเปลี่ยนแปลงในระยะเวลาของวัน เซลล์จะใช้เส้นทางนี้เพื่อส่งข้อความแห่งความเศร้าและแม้กระทั่งภาวะซึมเศร้าไปยังสมอง

“แพทเทิร์นของคนที่มีภาวะ SAD มักจะนอนเยอะ น้ำหนักเพิ่มขึ้น รู้สึกเหนื่อยล้า และรู้สึกเฉยชา” ดร.แกรนท์ บลาชกี(Grant Blashki) หัวหน้าที่ปรึกษาทางคลินิกของ Beyond Blue
melbourne_city.png
ฤดูหนาวนั้นอาจทำให้ผู้คนจำนวนมากใช้ชีวิตช้าลงได้ แต่สิ่งสำคัญคือต้องตระหนักถึงความแตกต่างระหว่างการตื่นขึ้นมาอย่างห่อเหี่ยวกับภาวะ SAD

“เราทุกคนมีช่วงเช้าที่เรายอมจะมอบเงินหนึ่งล้านดอลลาร์เพื่อขออยู่บนเตียงต่อไปอีก 10 นาที แต่เมื่อเป็นเช่นนั้นทุกวัน เมื่อมันส่งผลกระทบต่อชีวิตของคุณ ก็ถึงเวลาขอความช่วยเหลือ” ดร. บลาชกีบอกกับ The Feed

คนไข้ของฉันบางคนบอกว่าพวกเขารู้สึกราวกับว่าพวกเขากำลังเข้าไปในอุโมงค์เมื่อฤดูหนาวใกล้เข้ามา
ดร.บลาชกี กล่าว

รู้สึก SAD ทำอย่างไรดี?

เนื่องจาก SAD เป็นรูปแบบหนึ่งของภาวะซึมเศร้า ดร. บลาชกีจึงแนะนำให้ใครก็ตามที่รู้สึกว่าอาการทรุดลงให้ติดต่อแพทย์ GP หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพอื่นๆ ที่เชื่อถือได้เพื่อรับการวินิจฉัยและการรักษา

“ในฐานะแพทย์ สิ่งสำคัญคือต้องรู้ว่ามันคือภาวะ SAD เป็นภาวะซึมเศร้าที่รู้จักมากขึ้น เพราะการรักษานั้นแตกต่างออกไป” เขากล่าว

ดร. บลาชกีกล่าวว่าหนึ่งในวิธีการรักษาที่ชัดเจนและมีประโยชน์มากที่สุดคือการได้รับแสงแดดโดยตรงมากขึ้น

“ฉันจะบอกกับผู้คนว่าถึงแม้คุณจะพักทานอาหารกลางวันในที่ทำงานก็พยายามออกไปข้างนอก แม้ว่าจะไม่มีแดดก็ตาม” ดร.บลาชกีกล่าว
สำหรับผู้ที่ไม่สามารถเข้าถึงแสงแดดได้ การบำบัดด้วยกล่องไฟก็ให้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจเช่นกัน

การบำบัดนี้เกี่ยวข้องกับการนั่งอยู่หน้า "โคมไฟ SAD" ที่สว่างจ้าเป็นเวลา 30 นาทีทุกเช้าเพื่อเริ่มนาฬิกาชีวิตภายในของคุณ

Pedestrians in Melbourne
อากาศที่แปรปรวน ท้องฟ้าที่ไร้แสงแดด มีส่วนที่ทำให้หลายคนเผชิญภาวะ SAD Source: AAP
Beyond Blue ยังแนะนำการเปลี่ยนแปลงตามปกติหลายอย่างที่สามารถช่วยบรรเทาอาการของ SAD ได้

สิ่งเหล่านี้รวมถึงการแสวงหาแสงแดดธรรมชาติให้มากที่สุด เพิ่มปฏิสัมพันธ์ทางสังคม หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และการออกกำลังกายเพื่อการผ่อนคลาย เช่น การฝึกสมาธิหรือโยคะ

“...หนาวนี้เธอกอดใคร หนาวไหมมากอดกัน...” เนื้อเพลงฮิตที่คงผ่านลอยไปลอยมาในเพลยลิสต์ในวันที่อากาศหนาว แต่ถึงคุณไม่มีใคร อย่าลืมกอดตัวเองให้ดีๆ อย่าปล่อยให้ความ SAD กัดกินใจเรา ผู้อ่านที่ต้องการความช่วยเหลือด้านสุขภาพจิตสามารถติดต่อ

• SANE Australia Helpline 1800 18 SANE (7263) www.sane.org

• beyondblue support service line 1300 22 46 36

• Lifeline 13 11 14 www.lifeline.org.au

• MensLine Australia 1300 78 99 78

บทความนี้มีข้อมูลทั่วไปเท่านั้น หากต้องการคำแนะนำเกี่ยวกับสถานการณ์ส่วนบุคคลของคุณ โปรดพบแพทย์ที่มีคุณสมบัติเหมาะสม


Share
Published 30 May 2024 2:46pm
Updated 30 May 2024 3:04pm
By Warich Noochouy
Source: SBS

Share this with family and friends


Follow SBS Thai

Download our apps
SBS Audio
SBS On Demand

Listen to our podcasts
Independent news and stories connecting you to life in Australia and Thai-speaking Australians.
Understand the quirky parts of Aussie life.
Get the latest with our exclusive in-language podcasts on your favourite podcast apps.

Watch on SBS
Thai News

Thai News

Watch in onDemand