รัฐบาลยืนยันไม่เพิ่มเงิน JobSeeker

Treasurer Jim Chalmers won't be putting more money into JobSeeker

นาย จิม ชาลเมอร์ส รัฐมนตรีคลังของสหพันธรัฐ Source: Getty / Martin Ollman/Getty Images

นาย จิม ชาลเมอร์ส รัฐมนตรีคลังของสหพันธรัฐ ปฏิเสธข้อเสนอที่จะให้เพิ่มเงินสวัสดิการช่วยเหลือผู้หางาน JobSeeker แม้ว่าคณะกรรมการรัฐสภาจะพบว่าเงินสวัสดินี้นั้นไม่เพียงพออย่างมาก


นาย จิม ชาลเมอร์ส รัฐมนตรีคลังของสหพันธรัฐ ปฏิเสธข้อเสนอที่จะให้เพิ่มเงินสวัสดิการช่วยเหลือผู้หางาน JobSeeker แม้ว่าคณะกรรมการรัฐสภาจะพบว่าเงินสวัสดินี้นั้นไม่เพียงพออย่างมาก

การตัดสินใจครั้งนี้ของเขาอาจส่งผลเสียทางการเมือง ในขณะที่ชาวออสเตรเลียต้องดิ้นรนต่อสู้กับค่าครองชีพที่สูงขึ้นต่อเนื่อง

จัสติน บันทิง คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวที่มีลูกสองคน ได้รับเงินสวัสดิการผู้หางานเป็นพักๆ ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา

คุณบันทิงซึ่งเป็นช่างทำผม ได้รับบาดเจ็บที่มือ ซึ่งทำให้เธอทำงานไม่ได้

เธอบอกว่าเงินมักจะขัดสน แต่เมื่อราคาของใช้ในชีวิตประจำวันพุ่งสูงขึ้น จึงแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่เธอจะมีเงินเพียงพอกับค่าใช้จ่าย

“ทุกอย่างกำลังขึ้นราคา รวมทั้งค่าเช่าของเราด้วย และฉันไม่สามารถอยู่รอดได้ด้วยเงิน JobSeeker ที่ฉันได้รับ มันเป็นไปไม่ได้เลย มันไม่เพียงพอ เช่น เราไม่สามารถซื้อของชำเหมือนที่เคยซื้อเมื่อก่อนได้” คุณบันทิง กล่าว
ทุกอย่างกำลังขึ้นราคา รวมทั้งค่าเช่าของเราด้วย และฉันไม่สามารถอยู่รอดได้ด้วยเงิน JobSeeker ที่ฉันได้รับ
จัสติน บันทิง คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวที่มีลูกสองคน
เธอเป็นหนึ่งในชาวออสเตรเลียหลายล้านคนที่ได้รับเงินสวัสดิการสนับสนุนด้านรายได้ ซึ่งคณะกรรมการที่ปรึกษารัฐสภาด้านการลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ (Economic Inclusion Advisory Committee) ระบุว่าเงินสวัสดิการนี้นั้น 'ไม่เพียงพออย่างยิ่ง'

คณะกรรมการจัดตั้งขึ้นโดยรัฐบาลสหพันธรัฐ เพื่อตรวจสอบเรื่องเงินช่วยเหลือด้านรายได้ โดยเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงกับวุฒิสมาชิกอิสระ เดวิด โพค็อก

 รายงานฉบับดังกล่าวได้เสนอคำแนะนำ 37 ข้อ รวมถึงการเพิ่มเงินสวัสดิการผู้หางานจาก 693.10 ดอลลาร์ต่อสองสัปดาห์เป็น 957.60 ดอลลาร์ต่อสองสัปดาห์

 นอกจากนี้ยังแนะนำให้เพิ่มความช่วยเหลือด้านค่าเช่าจาก 157.20 ดอลลาร์ต่อสองสัปดาห์เป็น 228 ดอลลาร์

แค่ต้นทุนสำหรับเงินสวัสดิการ JobSeeker เพียงอย่างเดียวก็สูงกว่าร่างงบประมาณที่รัฐบาลประมาณการล่วงหน้าถึง 24,000 พันล้านดอลลาร์แล้ว จึงคาดว่ารัฐมนตรีคลังจะเพิกเฉยและไม่ทำตามคำแนะนำหลักของรายงานฉบับนี้
คุณ คาสซานดรา โกลดี ซีอีโอ ของสภาบริการสังคมแห่งออสเตรเลีย (Australian Council of Social Services)

“รัฐบาลจะไม่ดำเนินการตามคำแนะนำที่สำคัญนี้ได้อย่างไร นี่เราอยู่ในปี 2023 แล้ว แต่เราจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ว่างงานเป็นจำนวนเงินต่ำที่สุดในบรรดาประเทศที่ร่ำรวยที่สุดในโลก ดังนั้นแม้จะเป็นประเทศที่ร่ำรวยที่สุดในโลก เราก็มีคนมากกว่า 3 ล้านคน นั่นคือ 1 ใน 8 ของผู้คนที่กำลังดำเนินชีวิตอยู่อย่างยากจน รวมถึงเด็ก 1 ใน 6 คน และเหตุผลหลักก็คือเพราะเงินช่วยเหลือด้านรายได้ของเราต่ำมากจนไม่สามารถตอบสนองความต้องการขั้นพื้นฐานของผู้คนได้” คุณ โกลดี ซีอีโอ ของสภาบริการสังคมแห่งออสเตรเลีย กล่าว
แม้จะเป็นหนึ่งในประเทศที่ร่ำรวยที่สุดในโลก เราก็มีคนมากกว่า 3 ล้านคน นั่นคือ 1 ใน 8 ของผู้คนที่กำลังดำเนินชีวิตอยู่อย่างยากจน
คาสซานดรา โกลดี ซีอีโอ ของสภาบริการสังคมแห่งออสเตรเลีย
ในคำแถลงของนาย จิม ชาลเมอร์ส รัฐมนตรีคลังของสหพันธรัฐ กล่าวว่าจะมีมาตรการในร่างงบประมาณแผ่นดินที่จะแถลงในเดือนพฤษภาคมเพื่อแก้ไขความด้อยโอกาส แต่พรรคแรงงานไม่สามารถให้เงินทุนแก่ทุกแนวความคิดดีๆ ได้

นายอดัม แบนต์ ผู้นำพรรคกรีนส์ ได้ตำหนิการที่รัฐมนตรีคลังปฏิเสธข้อเสนอเพิ่มเงินสวัสดิการ

“แต่เห็นได้ชัดว่าพวกเขาสามารถให้เงินทุนกับแนวคิดที่ไม่ดีมากมาย เช่น ใช้กว่า 1 ใน 4 ของเงินจำนวน 1 ล้านล้านดอลลาร์ในการลดภาษีขั้นที่ 3 ให้กับคนรวย ในขณะที่คนธรรมดาต้องดิ้นรนจ่ายค่าเช่า ค่าอาหารและบิลต่างๆ” นายแบนต์ ผู้นำพรรคกรีนส์ กล่าว
พรรคแรงงานกำลังมองหาวิธีหลีกเลี่ยงการบรรเทาค่าครองชีพ ซึ่งถูกมองว่ามีแต่จะเพิ่มอัตราเงินเฟ้อ นายบิล ชอทเทน รัฐมนตรีด้านผู้พิการทุพพลภาพระบุว่า การให้เงินช่วยเหลือด้านค่าครองชีพจำเป็นต้องทำอย่างรับผิดชอบ

“ผู้คนกำลังประสบความลำบาก เราต้องการทำสิ่งที่รับผิดชอบและช่วยเหลือผู้คน และเราได้กำลังทำบางอย่าง ซึ่งคุณต้องรอดู แต่แน่นอนว่ามีหลายสิ่งหลายอย่างที่ต้องใช้งบประมาณและรัฐบาลชุดก่อนก็ทิ้งหนี้ไว้ให้เราเป็นล้านล้านดอลลาร์” นายชอทเทน กล่าว
มีหลายสิ่งหลายอย่างที่ต้องใช้งบประมาณและรัฐบาลชุดก่อนก็ทิ้งหนี้ไว้ให้เราเป็นล้านล้านดอลลาร์
บิล ชอทเทน รัฐมนตรีด้านผู้พิการทุพพลภาพ
นายเดวิด โพค็อก วุฒิสมาชิกอิสระ ที่ช่วยทำให้มีการตรวจสอบเรื่องเงินสวัสดิการผู้ว่างงาน JobSeeker เพื่อแลกกับการที่เขาสนับสนุนการผ่านกฎหมายแรงงานเมื่อปีที่แล้ว

เขาคาดหวังว่ารัฐบาลจะทำตามคำแนะนำจากผลการวิจัย แต่กลับไม่เป็นเช่นนั้น ซึ่งอาจทำให้ส่งผลเสียต่อโอกาสที่พรรคแรงงานจะได้รับการสนับสนุนจากนายโพค็อกเกี่ยวกับร่างกฎหมายอื่นๆ ในอนาคต

“ผมไม่เชื่อการที่ทำให้แน่ใจได้ว่าผู้คนจะไม่ดำเนินชีวิตอยู่ภายใต้เส้นแบ่งขีดความยากจนจะทำให้เงินเฟ้อ ผู้คนกำลังใช้เงินนั้นไปกับอาหาร ค่าเช่า ยารักษาโรค ดังนั้นนี่เป็นการลงทุนที่เราต้องทำในฐานะประเทศ เราต้องตัดสินใจว่าเราต้องการอยู่ในชุมชนแบบใด สังคมแบบใดที่เราอยากก้าวไปข้างหน้า ผมคิดว่าออสเตรเลียควรภูมิใจที่มีมาตรการให้ความช่วยเหลือทางสังคมแก่ประชาชนในภาวะวิกฤต ผมคิดว่าเราชะล่าใจมานาน และเราต้องทำให้แน่ใจได้ว่าเงินเหล่านั้นสอดคล้องกับค่าครองชีพ” นายโพค็อก กล่าว

ปีเตอร์ ดัตทัน ผู้นำพรรคฝ่ายค้าน กล่าวว่า รัฐบาลควรคาดการณ์ได้เลยว่า ผู้คนจะไม่พอใจกับเรื่องนี้

“ผมคิดว่าถ้ารัฐบาลกำลังสร้างกระบวนการที่พวกเขาจะไม่ใส่ใจกับมัน ผู้คนก็จะเริ่มโกรธเกี่ยวกับเรื่องนี้ และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียรวมถึง เดวิด โพค็อก ซึ่งไม่ต้องสงสัยเลยว่าถูกสะกิดจากนายกรัฐมนตรีเมื่อพวกเขาทำข้อตกลงกัน และตอนนี้นายกรัฐมนตรีได้ปฏิเสธข้อตกลงนั้น ดังนั้น ผมคาดว่าวุฒิสมาชิกโพค็อกจะแสดงความเห็นต่อสาธารณชนเกี่ยวกับเรื่องนี้ ว่าเห็นด้วยหรือไม่” นายดัตทัน กล่าว


คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์ 


บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่ 

Share
Follow SBS Thai

Download our apps
SBS Audio
SBS On Demand

Listen to our podcasts
Independent news and stories connecting you to life in Australia and Thai-speaking Australians.
Understand the quirky parts of Aussie life.
Get the latest with our exclusive in-language podcasts on your favourite podcast apps.

Watch on SBS
Thai News

Thai News

Watch in onDemand