รัฐบาลออสฯ อัด 'เฟซบุ๊ก' กรณีบล็อกอ่าน-แชร์ข่าว ลั่นรัฐไม่สะท้าน

นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีการคลังออสเตรเลียวิจารณ์เฟซบุ๊กทำเกินเหตุ หลังบล็อกไม่ให้ชาวออสซีอ่านข่าวทุกสำนักโต้ร่างประมวลกฎหมายบีบโซเชียลจ่ายเงินค่าเนื้อหาข่าว พบกระทบองค์กรที่ไม่ใช่สำนักข่าวอื่น ๆ ด้วย

Prime Minister Scott Morrison speaks to the media at Parliament House in Canberra, on Tuesday, 16 February.

Source: AAP

ประเด็นสำคัญ

  • นายกออส ฯ วิจารณ์ ‘เฟซบุ๊ก’ หนัก หลังบล็อกเพจองค์กรข่าวทั้งประเทศ โต้ร่างประมวลกฎหมายบีบจ่ายเงินค่าแสดงเนื้อข่าว กร้าวรัฐบาลไม่ระคาย ยังเดินหน้าการลงมติประกาศใช้เป็นกฎหมาย
  • รัฐมนตรีคลังหารือกับผู้ก่อตั้งเฟซบุ๊ก ผลลัพธ์ยืดเยื้อต้องหารืออีก หลังไม่ลงรอยในร่างประมวลกฎหมาย
  • มีเพจอื่นที่ไม่ใช่องค์กรข่าวที่ถูกเฟซบุ๊กบล็อกด้วย ซึ่งรวมถึงหน่วยงานสาธารณสุข และบริการฉุกเฉินต่าง ๆ

นายสกอตต์ มอร์ริสัน นายกรัฐมนตรี ได้วิพากษ์วิจารณ์การจำกัดห้ามแสดงเนื้อหา และการแชร์ข่าวสารในออสเตรเลียของเฟซบุ๊กอย่างรุนแรง โดนระบุว่า รัฐบาลไม่รู้สึก “ระแคระคายจากการกระทำของบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่”

“การกระทำของเฟซบุ๊กในทำนองว่าจะ unfriend ออสเตรเลียในวันนี้ ด้วยการตัดขาดข้อมูลข่าวสารสำคัญด้านสุขภาพและบริการฉุกเฉิน เป็นการกระทำที่หยิ่งยโสและช่างน่าผิดหวัง” นายมอร์ริสัน โพสต์ข้อความในบัญชีเฟซบุ๊กส่วนตัว เมื่อบ่ายวันนี้ (18 ก.พ.)

ตั้งแต่เมื่อเช้าที่ผ่านมา เฟซบุ๊กได้นำเนื้อหาในเพจองค์กรข่าวออกจนเหลือแต่หน้าเปล่า เพื่อตอบโต้กับร่างประมวลกฎหมายที่รัฐบาลสหพันธรัฐได้เสนอประกาศใช้ ซึ่งจะบีบบังคับให้บริษัทดิจิทัลแพลตฟอร์มต่าง ๆ ต้องจ่ายเงินเพื่อแสดงเนื้อหาข่าวของออสเตรเลีย  

นายมอร์ริสัน กล่าวว่า การกระทำของเฟซบุ๊ก เป็นการยืนยันถึงความกังวลที่เกิดขึ้นในหลายประเทศ เกี่ยวกับพฤติกรรมของบริษัทเทคโนโลยีซึ่งคิดว่าตน “ยิ่งใหญ่กว่ารัฐบาล และไม่มีกฎหมายใด ๆ ทำอะไรพวกเขาได้”  

“พวกเขาอาจจะเปลี่ยนแปลงโลกนี้ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าพวกเขาเป็นคนทำให้โลกนี้หมุนไป เราจะไม่รู้สึกระแคะระคายกับการกระทำของบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ กับความพยายามกดดันรัฐสภาของเรา ระหว่างที่มีการลงมติเห็นชอบร่างประมวลกฎหมายด้านอำนาจการต่อรองของธุรกิจสื่อที่มีความสำคัญนี้” นายมอร์ริสัน กล่าว
The prime minister criticised Facebook's "actions to unfriend Australia" in a Facebook post.
The prime minister criticised Facebook's "actions to unfriend Australia" in a Facebook post. Source: Facebook
ด้าน นายจอช ฟรายเดนเบิร์ก รัฐมนตรีการคลังของออสเตรเลีย ได้วิพากษ์วิจารณ์การตัดสินใจที่ “รุนแรงเกินเหตุ” ในการปิดกั้นไม่ให้ผู้ใช้งานเฟซบุ๊กในออสเตรเลียเข้าถึงและแชร์ข่าวสารได้

“เฟซบุ๊กเป็นฝ่ายผิด การกระทำของเฟซบุ๊กนั้นไม่จำเป็นเลย พวกเขาทำเกินกว่าเหตุ และพวกเขากำลังทำลายความนิยมของตัวเองในออสเตรเลีย” นายฟรายเดนเบิร์ก กล่าวกับผู้สื่อข่าว ในวันนี้ (18 ก.พ.)

เฟซบุ๊กได้ประกาศการตัดสินใจที่จะแบนการแสดงเนื้อหาและการแชร์เนื้อหาข่าวในวันนี้ (18 ก.พ.) เพื่อเป็นการตอบโต้กับร่างประมวลกฎหมายที่เสนอโดยรัฐบาลสหพันธรัฐ เพื่อบังคับให้ผู้ให้บริการดิจิทัลแพลตฟอร์มต่าง ๆ ต้องจ่ายเงินเพื่อแสดงผลเนื้อหาข่าวสารจากออสเตรเลีย

อย่างไรก็ตาม ในความพยายามของเฟซบุ๊กที่จะปิดกั้นการเผยแพร่และแบ่งปันเนื้อหาจากเพจองค์กรข่าวในวันนี้ มีหลายเพจอย่างเป็นทางอื่น ๆ ที่ไม่ใช่องค์กรข่าวกลับได้รับผลกระทบตามไปด้วย ทั้งหน่วยงานสาธารณสุขของรัฐบาล บริการสังคมต่าง ๆ กลุ่มสหภาพ รวมถึงสำนักอุตุนิยมวิทยาออสเตรเลียด้วย

นายฟรายเดนเบิร์ก กล่าวว่า การตัดสินใจที่จะปิดกั้นเพจของบริการรัฐ โดยเฉพาะหน่วยงานที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการระบาดใหญ่ของไวรัสโคโรนา  ข้อมูลด้านสุขภาพจิต และบริการฉุกเฉิน ถือเป็นการกระทำที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกับประมวลกฎหมายด้านสื่อแต่อย่างใด

“เหตุการณ์ในวันนี้ยืนยันว่า ชาวออสเตรเลียทุกคนเป็นกำลังทางการตลาดสำคัญของบริษัทสื่อสังคมออนไลน์ยักษ์นี้ ซึ่งได้ขยายขนาดใหญ่ขึ้นมากในระบบเศรษฐกิจ รวมถึงในพื้นที่ดิจิทัลของเรา” นายฟรายเดนเบิร์ก กล่าว

เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นายฟรายเดนเบิร์ก ได้พูดคุยกับ นายมาร์ค ซักเกอร์เบิร์ก (Mark Zuckerberg) ผู้ก่อตั้งเฟซบุ๊ก โดยอธิบายถึงบทสนทนาดังกล่าวว่า “เป็นขั้นเป็นตอน” หลังการตัดสินใจแบนเนื้อหาข่าวในออสเตรเลียของเฟซบุ๊ก แต่เขากล่าวว่า ยังคงมีประเด็นที่ยังต้องเจรจากับเฟซบุ๊กอย่างต่อเนื่อง เกี่ยวกับร่างประมวลกฎหมายดังกล่าว

“แน่นอนว่า เราต้องการให้กูเกิล และเฟซบุ๊ก อยู่ในออสเตรเลียต่อไป แต่ในขณะเดียวกัน หากคุณทำธุรกิจในออสเตรเลีย คุณก็ต้องปฏิบัติตามกฎหมายที่บัญญัติขึ้นโดยรัฐสภาของออสเตรเลีย ที่ได้รับการแต่งตั้งขึ้นโดยประชาชน” นายฟรายเดนเบิร์ก กล่าว

ทั้งนี้ เฟซบุ๊กกำลังอยู่ในระหว่างการเจรจากับธุรกิจสื่อในออสเตรเลียในการบรรลุข้อตกลงทางการค้า แต่บริษัทเครือข่ายสื่อสังคมออนไลน์ดังกล่าว ระบุว่า ร่างกฎหมายที่รัฐบาลออสเตรเลียได้เสนอนั้น ทำให้พวกเขาไม่เหลือทางเลือกใดอีก นอกจากการตัดสินใจในวันนี้

“เนื่องจากร่างกฎหมายไม่ได้ระบุถึงแนวทางที่ชัดเจนของคำจำกัดความสำหรับคำว่าเนื้อหาข่าว เราจึงตีความหมายแบบกว้าง ๆ เป็นการปฏิบัติตามร่างกฎหมายดังกล่าว” โฆษกเฟซบุ๊ก กล่าวในแถลงการณ์

“อย่างไรก็ตาม เราจะทำการยกเลิกสถานะการจำกัดห้ามสำหรับเพจใดก็ตามที่ได้รับผลกระทบจากการกระทำของเราอย่างไม่ได้ตั้งใจ”

การตัดสินใจในครั้งนี้ ได้กระตุ้นให้เกิดกระแสความไม่พอใจเป็นวงกว้าง ด้าน นายจิม ชาลเมอร์ส (Jim Chalmers) โฆษกการคลังของพรรคแรงงาน ได้อธิบายถึงสถานการณ์ในครั้งนี้ว่า “เป็นความเละเทะ” ที่รัฐบาลได้สร้างไว้

“มันขึ้นอยู่กับรัฐบาลที่จะบอกกับเราว่า มันได้เกิดอะไรขึ้นในจุดนี้ และพวกเขาจะทำอย่างไรเพื่อแก้ปัญหา” นายชาลเมอร์ส กล่าว

ในขณะเดียวกัน ได้เกิดความกังวลว่า การแบนเนื้อหาจากองค์กรข่าวในออสเตรเลียของเฟซบุ๊กจะส่งผลกระทบต่อประชาชน ในการเข้าถึงข้อมูลด้านสาธารณสุขในช่วงการแพร่ระบาดใหญ่ของไวรัสโคโรนา ซึ่งรวมถึงบริการข้อมูลในภาษาต่าง ๆ ของเอสบีเอส

ก่อนหน้านี้ เฟซบุ๊กเคยข่มขู่ว่าจะแบนเนื้อหาข่าวจากชาวออสเตรเลีย เพื่อตอบโต้กับประมวลกฎหมายสื่อมวลชน แต่ นายฟรายเดนเบิร์ก กล่าวว่า เฟซบุ๊กไม่ได้แจ้งล่วงหน้าเกี่ยวกับการตัดสินใจดังกล่าวต่อรัฐบาลออสเตรเลียก่อนที่จะดำเนินการ

นายพอล เฟลทเชอร์ (Paul Fletcher) รัฐมนตรีสื่อสารของออสเตรเลีย ระบุในกรณีการเคลื่อนไหวของเฟซบุ๊กในวันนี้ว่า ออสเตรเลียจะไม่ยอมอ่อนข้อ โดยจะยังคงยืนยันที่จะสนับสนุนร่างกฎหมายดังกล่าวต่อไป

“เรายืนยันอย่างชัดเจนว่า นี่เป็นการกระทำที่ผิดของเฟซบุ๊ก และแน่นอนว่า จุดยืนของเรายังคงชัดเจนว่าเราจะประกาศให้ร่างประมวลกฎหมายดังกล่าวมีผลบังคับใช้” นายเฟลทเชอร์ กล่าว

ทั้งนี้ ร่างประมวลกฎหมายด้านอำนาจการต่อรองของธุรกิจสื่อ (Media Bargaining Code) จะมีกำหนดการลงมติเห็นชอบโดยสมาชิกวุฒิสภาต่อไป หลังผ่านความเห็นชอบจากสภาล่างแล้ว


คุณอาจสังเกตว่า เอสบีเอส ไทย ไม่มีความเคลื่อนไหวบนเฟซบุ๊ก แต่คุณยังสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเรา ได้ที่เว็บไซต์  บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้ท่านพลาดสถานการณ์ล่าสุด

นอกจากนี้ คุณยังสามารถรับฟังข่าวสารล่าสุดเป็นภาษาไทยผ่านทางวิทยุออนไลน์ได้ที่แอปฯ SBS Radio
เรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจจาก เอสบีเอส ไทย

'เฟซบุ๊ก' แบนการโพสต์-แชร์ข่าวสารในออสเตรเลีย


Share
Published 18 February 2021 7:11pm
Updated 12 August 2022 3:11pm
By Tom Stayner, Emma Brancatisano
Presented by Tinrawat Banyat


Share this with family and friends


Follow SBS Thai

Download our apps
SBS Audio
SBS On Demand

Listen to our podcasts
Independent news and stories connecting you to life in Australia and Thai-speaking Australians.
Understand the quirky parts of Aussie life.
Get the latest with our exclusive in-language podcasts on your favourite podcast apps.

Watch on SBS
Thai News

Thai News

Watch in onDemand