ซาราห์ขโมยของจากซูเปอร์มาร์เก็ตเมื่อไม่มีเงินซื้ออาหารกิน เธอคิดว่านั่นสมเหตุสมผลแล้ว

การขโมยของจากร้านค้าเพิ่มสูงเป็นประวัติการณ์ในออสเตรเลีย ท่ามกลางแรงกดดันด้านค่าครองชีพและความโกรธเคืองที่ซูเปอร์มาร์เก็ตยักษ์ใหญ่มีผลกำไรเป็นพัน ๆ ล้านดอลลาร์

A woman with a tote bag over her shoulder, several food items visible inside as if the bag is being X-rayed.

การขโมยของตามร้านค้าเพิ่มสูงขึ้นอย่างมากท่ามกลางวิกฤตค่าครองชีพ เนื่องจากผู้คนพบความยากลำบากมากขึ้นในการที่จะมีเงินพอจ่ายค่าของชำ Source: SBS

ซาราห์* ขโมยของชำรวมมูลค่าราว 300 ดอลลาร์ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ส่วนใหญ่เป็นอาหาร แต่บางครั้งก็เป็นเครื่องสำอาง เช่น ยาทาเล็บ

“ถ้าฉันมี (เงิน) ไม่พอหรือคำนวณผิด ฉันจะไม่สแกนสินค้าที่ราคาถูกที่สุดบางชิ้น” เธอบอกกับเดอะ ฟีด (The Feed)

เช่นเดียวกับผู้คนในออสเตรเลียคนอื่นๆ อีกนับไม่ถ้วน ซาราห์ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากค่าครองชีพและวิกฤตด้านที่อยู่อาศัย

เธอกำลังประสบความยากลำบากในการหาที่อยู่อาศัยหลังถูกปฏิเสธการสมัครเช่าบ้านหลายต่อหลายครั้ง และตอนนี้เธอก็กำลังคิดที่จะขโมยอาหารสำหรับสัตว์เลี้ยง เพื่อจะมีอะไรให้แมวที่เธอเลี้ยงไว้กิน

เธอมีกฎอยู่ข้อเดียวคือ: หลีกเลี่ยงการขโมยของจากธุรกิจขนาดเล็กที่ "กำลังประสบความยากลำบาก" แต่ผู้ค้าปลีกรายใหญ่เช่น โคลส์ (Coles) วูลเวิร์ตส์ (Woolworths) และเคมาร์ต (Kmart) ถือเป็นการกระทำที่ยุติธรรมดีแล้วในสายตาของเธอ

“พวกเขายังคงมีกำไรท่วมตัว แม้ว่าฉันจะขโมยอาหารแมวกระป๋องละ 2 ดอลลาร์หรือไม่ก็ตาม”

การขโมยของตามร้านค้าเพิ่มสูงเป็นประวัติการณ์

การขโมยของจากร้านค้าปลีกได้เพิ่มขึ้นอย่างมากทั่วออสเตรเลียในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา

ศาสตราจารย์ไมเคิล ทาวน์สลีย์ ผู้ทำการวิจัยด้านอาชญากรรมในร้านค้าปลีก จากมหาวิทยาลัยกริฟฟิธ ในควีนส์แลนด์ กล่าวว่า การขโมยของตามร้านค้าลดลงในช่วงการระบาดใหญ่ของโควิด-19 แต่จำนวนดังกล่าวกลับมาเพิ่มขึ้นอีกครั้ง

“ควีนส์แลนด์ (และ) รัฐเซาท์ออสเตรเลีย การขโมยของของลูกค้าสูงกว่าช่วงก่อนโควิดระบาดอย่างมาก ซึ่งค่อนข้างน่าแปลกใจ” ศ.ทาวน์สลีย์ กล่าว

สถิติของเขาซึ่งนำมาจากบันทึกประจำวันของตำรวจในรัฐ เผยให้เห็นว่า เหตุการณ์การขโมยของในร้านค้าเพิ่มขึ้นกว่าสองเท่าในรัฐเซาท์ออสเตรเลียระหว่างปี 2019-2023 ในรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียเพิ่มขึ้น 42 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ในรัฐควีนส์แลนด์เพิ่มขึ้น 25 เปอร์เซ็นต์
Graph showing the numbers of police-recorded shoplifting in each state between 2015 and 2023
กราฟแสดงจำนวนการขโมยของตามร้านค้าจากข้อมูลบันทึกประจำวันของตำรวจในรัฐต่าง ๆ ระหว่างปี 2015-2023 Source: SBS
คุณพอล ซาห์รา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของสมาคมผู้ค้าปลีกแห่งออสเตรเลีย (ARA) กล่าวว่า การขโมยของตามร้านค้ากำลังสร้างความเสียหายต่ออุตสาหกรรมค้าปลีกคิดเป็นมูลค่า 9 พันล้านดอลลาร์ต่อปี

“จำนวนที่แท้จริงอาจสูงกว่านี้อีก อย่างไรก็ตาม เป็นการยากที่จะระบุตัวเลขที่แน่นอนของการขโมยของตามร้านค้าปลีก เนื่องจากส่วนใหญ่เกิดขึ้นโดยไม่ถูกแจ้ง” คุณซาห์รา กล่าว

ในเดือนสิงหาคม โคลส์ (Coles) รายงานว่าการสูญเสียสต็อก (ซึ่งรวมถึงการถูกขโมยและอาหารที่เสีย) เพิ่มขึ้น 20 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว คุณแบร็ด แบนดุกซี ผู้บริหารระดับสูงของวูลเวิร์ตส์ (Woolworths) ประเมินว่าการขโมยของของลูกค้าคิดเป็นสัดส่วน 1 ใน 4 ของการสูญเสียสต็อกทั้งหมด

เหตุใดการขโมยของตามร้านค้าจึงเพิ่มขึ้น?

กอร์ดอน* เคยเดินออกมาจากโคลส์โดยไม่จ่ายเงินค่าของชำเต็มรถเข็น ซึ่งมีชำมูลค่า 170 ดอลลาร์ เขาตัดสินใจขโมยของในร้านด้วยความหงุดหงิด หลังจากประสบปัญหาในใช้เครื่องสแกนสินค้าและชำระเงินด้วยตนเอง (self-checkout) และไม่ได้รับความช่วยเหลือใด ๆ

“ผมเป็นพลเมืองที่ค่อนข้างสุขุมมาตลอดโดยไม่มีประวัติการโจรกรรม/อาชญากรรม จนกระทั่งระบบเหล่านี้ถูกสร้างขึ้นมา” กอร์ดอนกล่าว

“ผมคิดถึงรูปแบบการชำระเงินแบบดั้งเดิม ที่สินค้าถูกสแกนและปัญหาได้รับการแก้ไขทันทีตรงนั้นเลย”

การชำระเงินแบบบริการตัวเอง (Self-service checkouts) กำลังกลายเป็นสิ่งที่พบเห็นได้ทั่วไปมากขึ้นในร้านค้าปลีกรายใหญ่ และนั่นส่งผลให้ง่ายขึ้นที่ผู้คนจะขโมยของ

อย่างไรก็ตาม ศ.ไมเคิล ทาวน์สลีย์ ผู้ทำการวิจัยเรื่องนี้ กล่าวว่า แรงกดดันด้านค่าครองชีพน่าจะเป็นตัวขับเคลื่อนหลักที่ทำให้การขโมยของตามร้านค่าเพิ่มมากเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากผู้คนพบยากลำบากมากขึ้นที่จะมีเงินพอซื้อสิ่งของจำเป็น

เราจ่ายเงินค่าอาหารเพิ่มขึ้น 7.5 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ตามรายงานเงินเฟ้อล่าสุดจากสำนักงานสถิติแห่งออสเตรเลีย สินค้าที่ราคาพุ่งสูงขึ้นมากที่สุดคือกลุ่มผลิตภัณฑ์นม ซึ่งราคาสูงขึ้น 15 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่ขนมปังและซีเรียลเพิ่มขึ้น 11 เปอร์เซ็นต์ และเนื้อสัตว์และอาหารทะเลเพิ่มขึ้น 3.5 เปอร์เซ็นต์

พนักงานในซูเปอร์มาร์เก็ตบางคนก็แสร้งเอาหูไปนาเอาตาไปไร่

เทย์เลอร์* เป็นพนักงานในแผนกเดลิ (deli แผนกอาหารปรุงสำเร็จ) ที่วูลเวิร์ตส์ (Woolworths) ซึ่งมีความเห็นอกเห็นใจต่อผู้คนที่ขโมยของในร้าน

“ฉันเห็นคนเอาของใส่เป้แล้วก็เดินออกไป แต่ฉันก็ไม่ได้พูดอะไร” เทย์เลอร์ กล่าว

“ฉันชอบสันนิษฐานแบบเหมารวมว่าถ้าใครขโมยของ พวกเขาคงจำเป็น”

ในขณะที่พนักงานบางคนขยันขันแข็งในการป้องกันการขโมยของในร้าน เทย์เลอร์กล่าวว่าคนอื่น ๆ เพิกเฉย

“ถ้าไม่ต้องการให้คนขโมยของ ก็กำจัดเครื่องชำระเงินด้วยตนเองไปให้หมดสิ และจ่ายเงินให้คนทำงานที่จุดจ่ายเงิน” เทย์เลอร์ กล่าว

“ใช่ว่าฉันจะเงินเพิ่ม หากฉันหยุดยั้งการขโมยของในร้าน”

เทย์เลอร์กล่าวว่าพนักงานของวูลเวิร์ตส์ได้รับการฝึกอบรมไม่ให้เผชิญหน้ากับผู้ที่ขโมยของในร้าน เผื่อว่าพวกเขาอาจมีพฤติกรรมก้าวร้าว แต่พนักงานจะได้รับคำสั่งให้แจ้งหัวหน้างาน

การขโมยของตามร้านค้าเป็นที่ยอมรับได้แค่ไหนในออสเตรเลีย?

นักช้อปในออสเตรเลียมากกว่า 1 ใน 4 เชื่อว่าการขโมยของตามร้านค้าปลีกบางรูปแบบนั้นมีความสมเหตุสมผล “เล็กน้อย” ถึง สมเหตุสมผล “อย่างสิ้นเชิง” จากการสำรวจนักช้อปมากกว่า 1,000 คนโดยมหาวิทยาลัยโมนาช

มากกว่า 1 ใน 3 ของผู้ตอบแบบสำรวจกล่าวว่า "การสแกนสินค้าโดยเลือกให้เป็นสินค้าที่ถูกกว่าเมื่อใช้เครื่องชำระเงินด้วยตนเอง" และ "การไม่สแกนสินค้าบางรายการเมื่อใช้เครื่องชำระเงินด้วยตนเอง" เป็นพฤติกรรมที่สมเหตุสมผล “เล็กน้อย” ถึง สมเหตุสมผล “อย่างสิ้นเชิง”

“การนำสินค้าไปโดยไม่จ่ายเงิน” ถูกมองว่าเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลสำหรับนักช้อปมากกว่า 1 ใน 4
A chart showing the results of a survey on the justifiabity of theft to Australian shoppers
ภาพแสดงผลการสำรวจนักช้อปในออสเตรเลียเกี่ยวกับความเห็นเรื่องการขโมยของตามร้านค้า Source: SBS
ปีตาร์* เคยขโมยของในร้านค้า แต่ขณะนี้เธอพึ่งพาความช่วยเหลือด้านอาหาร เธอเชื่อว่าการขโมยของตามร้านค้าเป็นการกระทำที่สมเหตุสมผลในกรณีที่ประสบปัญหาทางการเงินอย่างรุนแรง

“แม้ว่าฉันไม่เคยยอมรับกับพฤติกรรมการขโมยของตามร้านค้า แต่ฉันเชื่อว่าหากความพยายามอื่น ๆ เพื่อให้ได้อาหารมาล้มเหลวและคุณไม่มีทางเลือกอื่นจริง ๆ ฉันก็จะไม่โทษคนที่ทำเช่นนี้” ปีตาร์ กล่าว

“มีหลายครั้งที่ฉันใช้ชีวิตอยู่หลายวันโดยไม่มีอาหารกิน เพียงเพื่อให้ครอบครัวของฉันได้กิน...ฉันเชื่อว่าทำมันโอเคที่จะทำเช่นนั้นในสถานการณ์เหล่านั้น”

คุณพอล ซาห์รา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของสมาคมผู้ค้าปลีกแห่งออสเตรเลีย (ARA) กล่าวว่า มันขัดแย้งกับความรู้สึกของเขา เมื่อรู้ว่าคนที่ขโมยของตามร้านค้าบางคนทำไปเพราะความสิ้นไร้หนทาง แต่พฤติกรรมเช่นนั้นก็ไม่ใช่คำตอบ
An older woman with a trolley picks up a packet of meat from the meat section inside a Woolworths store
เราจ่ายเงินค่าอาหารเพิ่มขึ้น 7.5 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โดยเนื้อสัตว์และอาหารทะเลเพิ่มขึ้น 3.5 เปอร์เซ็นต์ Source: AAP / Glenn Campbell
“กฎหมายก็คือกฎหมาย และเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องใช้ความพยายามทุกวิถีทางเพื่อกีดกันกิจกรรมประเภทนี้ซึ่งไม่เป็นประโยชน์ต่อใครเลย รวมถึงบุคคลที่ก่ออาชญากรรมด้วย เนื่องจากจะทำให้พวกเขาได้รับโทษและมีประวัติอาชญากรรม” คุณ ซาห์รา กล่าว

ผู้ขโมยของตามร้านค้าหลายคนบอกกับ The Feed ว่า ตอนนี้พวกเขามีแรงจูงใจมากขึ้นที่จะขโมย หลังจากที่วูลเวิร์ตส์ และโคลส์ ประกาศว่าบริษัทได้ผลกำไรนับพันล้านดอลลาร์ท่ามกลางวิกฤตค่าครองชีพ

ศ.ไมเคิล ทาวน์สลีย์ กล่าวว่าเหตุผลประเภทนี้เรียกว่าการแก้ตัวสำหรับการกระทำผิด (neutralisation) โดยลดผลกระทบจากการกระทำที่ไม่ดีของเราให้เหลือน้อยที่สุด เพื่อทำให้เรารู้สึกดีกับตัวเองมากขึ้น

“เราทุกคนมีความคิดสร้างสรรค์อย่างมากในการหาเหตุผลว่าทำไมจริง ๆ แล้วเราถึงเป็นคนดี และเราถูกชักจูงใจให้ทำสิ่งเลวร้ายนั้น” ศ.ทาวน์สลีย์ กล่าว

การขโมยของตามร้านค้ามีโทษอย่างไร?

การขโมยของตามร้านค้าถือเป็นความผิดฐานลักทรัพย์ ซึ่งมีบทลงโทษแตกต่างกันไปในแต่ละรัฐ นอกจากนี้ยังขึ้นอยู่กับมูลค่าของสินค้าที่ถูกขโมยด้วย

ตัวอย่างเช่น ในศาลท้องถิ่นของนิวเซาท์เวลส์ หากมูลค่าของทรัพย์สินที่ถูกขโมยไม่เกิน 5,000 ดอลลาร์ ค่าปรับสูงสุดคือปรับ 5,500 ดอลลาร์ และ/หรือจำคุกสองปี หากทรัพย์สินมีมูลค่ามากกว่า 5,000 ดอลลาร์ โทษปรับเพิ่มเป็น 11,000 ดอลลาร์ และ/หรือจำคุก 2 ปี

ในการพิจารณาคดี ผู้พิพากษาจะพิจารณาสถานการณ์ส่วนบุคคลและประวัติอาชญากรรมของบุคคลนั้นด้วย

หากมีการใช้ความรุนแรงหรือการข่มขู่ว่าจะใช้ความรุนแรง ผู้ก่อเหตุอาจถูกตั้งข้อหาปล้นทรัพย์ได้ ซึ่งเป็นอาชญากรรมที่ร้ายแรงกว่ามาก

นอกจากนี้ ซูเปอร์มาร์เก็ตยังสามารถห้ามผู้ที่เคยก่อเหตุขโมยของไม่ให้เข้ามาในร้านได้

ซาราห์ไม่รู้สึกกลัวกับมาตรการเหล่านี้ “ตอนนี้มีกล้องที่สามารถจับภาพใบหน้าของคุณได้โดยตรง แต่มันก็ไม่ได้ยับยั้งฉันแต่อย่างใด”

*ไม่ใช่ชื่อจริงของผู้ให้สัมภาษณ์

คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์ 

บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่ 

Share
Published 19 October 2023 3:34pm
By Jennifer Luu
Presented by Parisuth Sodsai
Source: SBS


Share this with family and friends


Follow SBS Thai

Download our apps
SBS Audio
SBS On Demand

Listen to our podcasts
Independent news and stories connecting you to life in Australia and Thai-speaking Australians.
Understand the quirky parts of Aussie life.
Get the latest with our exclusive in-language podcasts on your favourite podcast apps.

Watch on SBS
Thai News

Thai News

Watch in onDemand